"อัจฉริยะ-สบส."แจ้งเอาผิด รพ.ไม่รักษา"พริตตี้วาวา"

2021-03-26 14:35:42

"อัจฉริยะ-สบส."แจ้งเอาผิด รพ.ไม่รักษา"พริตตี้วาวา"

Advertisement

"อัจฉริยะ-สบส." แจ้งความเอาผิด รพ. ไม่รับรักษา "พริตตี้วาวา" ตามหลักผู้เจ็บป่วยฉุกเฉิน


สุดสงสาร “น้องแหวน” บุตรสาวเหยื่อด้ามไม้กวาด รับศพแม่ไร้กำหนดเผา

สุดอาลัย จนท.เดินพิทักษ์ป่าจนตัวตาย

“โบวี่” ร่ำไห้ลาบ้านหรูครั้งสุดท้าย หลังขาย 42 ล้าน

เมื่อวันที่ 26 มี.ค. นายชาตรี พิณใย นิติกรชำนาญการ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. พร้อมด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำหลักฐานสำเนาเอกสารภาพถ่ายใบเสร็จชำระเงิน รวมถึงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการไม่ปฏิบัติตามมาตรการดูแลผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ UCEP เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อให้ดำเนินการกับโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล มาตรา 36 เนื่องจากมีการขอให้วางเงินมัดจำก่อนรับการรักษา จนเป็นเหตุให้ น.ส.วิชญาพร วิเศษสมบัติ หรือพริตตีวาวา เสียชีวิตในเวลาต่อมา




โดย นายชาตรี กล่าวว่า ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า กรณีเข้ารับการรักษาตัวของพริตตีวาวา เข้าข่ายมีอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต ที่สามารถใช้สิทธิ์ของ UCEP ได้ และแม้ว่าโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวจะให้การรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินแล้ว แต่ไม่ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขตามที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.สถานพยาบาล เช่น ไม่ตรวจคัดแยกระดับความฉุกเฉิน, ไม่แจ้งผลการคัดแยกของผู้ป่วยให้ญาติรับทราบ และมีการเรียกเก็บเงินค่ารักษาพยาบาล นอกจากนี้โรงพยาบาลยังออกใบเสร็จรับเงินอันเป็นเท็จ โดยการเรียกเก็บเงินค่าอาหารผู้ป่วย โดยที่ผู้ป่วยไม่ได้รับประทานอาหาร แถมยังจัดทำหลักฐานเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลปลอมอีกด้วย


ด้าน นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เรื่องโพรงพยาบาลไม่ให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที มีเจ้าของบ้านเป็นพยานยืนยันได้ โดยมีการบันทึกหลักฐานบางส่วนไว้ หลังพบว่าทางโรงพยาบาลจะไม่ยอมรักษาหากไม่มีการวางเงินมัดจำไว้ก่อน ส่วนหลักฐานเรื่องใบเสร็จปลอม พบว่าภายหลังทางโรงพยาบาล พยายามจะขอคืนเงินให้ แต่เนื่องจากเรื่องนี้กลายเป็นคดีความ มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งไปแล้ว จึงไม่สามารถรับเงินดังกล่าวได้ ส่วนการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง ทราบว่าวันนี้มีการสอบสวนพยานชุดสุดท้าย และในวันจันทร์ที่ 29 มี.ค.นี้ จะเริ่มเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบข้อหา โดยจะทยอยเรียกมาครั้งละประมาณ 10 ราย


ขณะที่ พ.ต.อ.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ระบุว่า ขระนี้ใกล้จะสรุปผลการดำเนินคดีได้แล้ว โดยในวันนี้ได้นัดหมายเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน มาให้ปากคำถึงผลตรวจพยานหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุ ก่อนนำไปประกอบสำนวนการสอบสวน โดยคาดว่าภายในสัปดาห์หน้า จะเริ่มเรียกผู้เกี่ยวข้องกับคดีนี้ทั้งหมดเข้ารับทราบข้อกล่าวหา โดยจะหารือกับพนักงานอัยการ เพื่อกำหนดวันนัดหมายในการออกหมายเรียกอีกครั้ง