"เทพไท" ชี้ซัดบางพรรคสะกด "มารยาทการเมือง”ไม่เป็น

2021-02-12 14:20:29

"เทพไท" ชี้ซัดบางพรรคสะกด "มารยาทการเมือง”ไม่เป็น

Advertisement

"เทพไท" ชี้ชาวบ้านยังรู้ "มารยาทการเมือง” แต่บางพรรคการเมืองสะกดไม่เป็น

หมอเฉลยแล้ว "น้ำมะพร้าว" เพิ่มพลังเซ็กส์จริงหรือ?

"น้ำมะพร้าว" ขายดีหลังมีข่าวเพิ่มพลังเซ็กส์

สุดซึ้งหนุ่มตกงาน พาสุนัขคู่ใจ เดินเท้ากลับบ้านไปหาแม่ จ.เลย

เมื่อวันที่ 12 ก.พ. นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)  ได้ลงพื้นที่ตลาดนัดบ้านสระใคร อ.เฉลิมพระเกียรติ เพื่ออำลาตำแหน่ง ส.ส.กับพี่น้องประชาชน ที่มาจับจ่ายใช้สอยและพ่อค้าแม่ค้า ที่มีความคุ้นเคยกัน สมัยที่ยังเป็น ส.ส.อยู่ ซึ่งพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ได้แสดงความเสียดาย ในฐานะที่เป็น ส.ส.ทำงานใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนมากที่สุด จากการลงพื้นที่พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ยังให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์เหมือนเดิม และมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเลือกตั้งซ่อม ที่พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ส่งผู้สมัครแข่งขันกันเอง โดยไม่คำนึงถึงมารยาททางการเมือง หรือประเพณีปฎิบัติทางการเมืองที่ผ่านมา ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ที่สนใจการเมือง ต่างทราบดีว่าในอดีตที่ผ่านมา เมื่อมีการเลือกตั้งซ่อมในทุกครั้ง จะมีการแข่งขันกันระหว่างตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคร่วมฝ่ายค้านเท่านั้น แต่ในการเลือกตั้งซ่อมเขต3 จ.นครศรีธรรมราชครั้งนี้ กลับมีพรรคร่วมรัฐบาล ลงสมัครแข่งขันกันเอง โดยไม่คำนึงถึงมารยาททางการเมือง แต่กลับยกข้ออ้างเหตุผลด้านประชาธิปไตยขึ้นมาสนับสนุนความคิดของตัวเอง ซึ่งประชาชนย่อมรู้ดีว่าพรรคการเมืองไหน หรือนักการเมืองคนใด มีมารยาททางการเมืองมากกว่ากัน


นายเทพไท กล่าวต่อว่า ส่วนตัวได้ตอบคำถามและอธิบายเหตุผลกับประชาชน ว่า เป็นสิทธิของพรรคการเมืองแต่ละพรรค ที่จะส่งสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ แต่จิตสำนึกหรือมารยาททางการเมือง เป็นเรื่องของสปิริตที่พรรคการเมืองจะมีความสำนึกทางการเมืองหรือไม่ พรรคการเมืองบางพรรคอาจจะสะกดคำว่า”มารยาท”ไม่เป็น ซึ่งก็เป็นเรื่องแปลกเพราะประชาชน ที่เป็นชาวบ้านธรรมดา ก็ยังรู้ได้ว่า “มารยาททางการเมือง”เป็นเช่นไร เพราะการแข่งขันในสนามเลือกตั้งซ่อม ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของรัฐบาล พรรคการเมืองใดจะแพ้หรือชนะ นายกรัฐมนตรีก็ยังเป็นคนเดิม ซึ่งแตกต่างกับการเลือกตั้งทั่วไป ที่ต้องแข่งขันกันอย่างเต็มที่ ในทุกเขตทุกสนาม เพื่อหาคะแนนเสียงสนับสนุนบุคคลที่พรรคการเมืองนั้น เสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ครั้งนี้ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองใดๆ อาจเป็นเพียงแค่การสนองตัณหาของพรรคการเมืองบางพรรค ที่ต้องการจะลงสนามเลือกตั้งเพื่อช่วงชิงพื้นที่ทางการเมือง ระหว่างพรรคการเมืองด้วยกันมากกว่า