แขวะใคร? “บิ๊กตู่” พูดลอย ๆใครรวยปี 2530 จากโครงการโทรคมนาคม
"แอน จักรพงษ์" เสียใจ โกรธ "ณ"ทำตัวเหมือนเปาบุ้นจิ้นพูดเหมือนเราไม่มีเงาหัวในสายตาเขา
"ณวัฒน์"เคลียร์บุญคุณกับผู้สนับสนุนเป็นสัญญาต่างตอบแทน แฉอีกฝ่ายจ่ายเงินช้าทวงแล้วทวงอีก
เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวภายหลัง นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และคณะผู้บริหาร เข้าพบเพื่อนำเสนอผลงานภายใต้โครงการ BCG เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานราก ผลงาน BCG พลังเศรษฐกิจใหม่ พัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ตอนหนึ่ง ว่าหลายอย่างประเทศไทยได้เริ่มต้น ซึ่งเป็นวิธีการที่ถูกต้อง ในเรื่องการปรับเศรษฐกิจของไทย ที่จะทำให้เรามีรายได้สูงขึ้นอย่างที่ตั้งเป้าไว้จากรายได้ปานกลางเป็นประเทศที่มีรายได้สูง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาล ภาคเอกชนและนักวิชาการ นี่คือการทำงานของประเทศไทยและหลายอย่างเกิดขึ้นในช่วงสมัยของรัฐบาลนี้ มีอะไรที่ต่อยอดขึ้นไปเรื่อยๆ สิ่งดีดีเกิดขึ้นในประเทศไทยแล้ว สิ่งไม่ดีเราก็แก้ไขกันไปเท่านั้นเอง อุปสรรคเราก็ต้องแก้ทั้งด้วยกฎหมายและวิธีการ อยู่ระหว่างการทบทวนและแก้ไขกฎหมายอยู่หลายฉบับ ยากพอสมควร เพราะทุกอย่างก็ต้องเข้าสภา จึงอยากให้ใช้เวลาที่มีอยู่ ช่วงการแพร่ระบาดของ โควิด-19 พัฒนาศักยภาพต่างๆหลังจากนี้เมื่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทุเลาลงไปแล้วก็จะทำให้เรา เป็นประเทศที่ก้าวได้เร็วกว่าคนอื่น ล้มแล้วลุกไว ลุกแล้วก้าวต่อด้วยความแข็งแรง เพราะฉะนั้นปัญหาอื่นๆมันธรรมดา คนเยอะปัญหาก็เยอะ เพราะประเทศไทยคนมาก จึงขอให้ทุกคนช่วยกันสนับสนุนประชาสัมพันธ์สิ่งของที่ได้มีการผลิตขึ้นมา ซึ่งมีหลายอย่างและตนก็จะนำไปประชาสัมพันธ์ด้วย
ในช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวพลางหยอกล้อว่า ตนน่าจะใช้ประโยชน์ได้ในเรื่องของน้ำมันใส่ผม เพราะเห็นว่าทุกคนผมดก ตนจะไปลองใช้ดูแล้วจะช่วยประชาสัมพันธ์ให้ว่าใช้แล้วหล่อขึ้น ไม่เช่นนั้นก็ทรุดโทรม ไม่ไหวถูกสื่อวิพากษ์วิจารณ์เขียนถึง แก่ลงทุกวัน ทั้งนี้ขอให้ทุกคนช่วยกันประชาสัมพันธ์สิ่งที่ดีๆ สิ่งที่มันขัดแย้งก็ว่ากันไป ก็ขอให้นำข้อเท็จจริงมาว่ากัน ตนไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้หันมาทางผู้สื่อข่าวว่า มีอะไรสงสัยเกี่ยวกับ Bio Circular Green หรือไม่ รู้จักมั้ย ช่วยกันพูดหน่อย อย่าพูดแต่เรื่องการเมือง ความขัดแย้งอย่างเดียวเลย พูดถึงความก้าวหน้า มีเยอะแยะ รัฐบาลมีวิสัยทัศน์อย่างไร ถ้าไม่มีวิสัยทัศน์เรื่องเหล่านี้คงไม่เกิดขึ้น นี่คือคำว่าวิสัยทัศน์ รัฐบาลเดินหน้าเช่นนี้มาโดยตลอดมันต้องคิด ไปข้างหน้า อย่าไปคิดแต่เรื่องเดิมๆทำแต่เรื่องเดิมๆ มันก็จะได้แต่เรื่องเดิม ลดความเหลื่อมล้ำอะไรไม่ได้ แล้วอยากบอกว่าประเทศไทยเราเปลี่ยนไปตั้งแต่ปี 2520 ที่มีการปรับเปลี่ยนจากเกษตรกรรมมาเป็นการส่งออกและเทคโนโลยี ไม่เช่นนั้นคงไม่มีคนรวยเมื่อปี 2530 หรอก ลองไปดูสิ ใครรวยเมื่อปี 2530 จากโครงการโทรคมนาคม ผู้สื่อข่าวถามว่าช่วงนี้เข้าใจพูดเข้าใจโยง พล.อ.ประยุทธ์หันมากล่าวว่า ทำไม ในหัวยังมีอีกเยอะ