“หญิงหน่อย” ย้ำต้องเร่งแก้ ศก.แจกเงินสด พักชำระหนี้

“คุณหญิงสุดารัตน์” ลุยชุมชนย่านบางกอกน้อย ย้ำต้องเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แจกเงินสด พักชำระหนี้ เรียกร้องแก้ปัญหาคลินิกบัตรทอง มองปิดคลินิกเป็นการผลักภาระให้ประชาชน

เมื่อวันที่ 31 ม.ค. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานกลุ่มสร้างไทยนำทีมคนรุ่นใหม่อาสาสร้างไทย ลงพื้นที่ชุมชนตรอกไผ่ บางเสาธง ซอยจรัญสนิทวงศ์ 19, 23 กทม. เดินหน้ากิจกรรม"รวมพลังสู้ภัยโควิด" พบปะ ให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ การระบาดของไวรัสโควิด-19

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวภายหลังเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนว่าปัญหาที่คนในชุมชนที่นี่เจอคือเรื่องปากท้อง เนื่องจากเมื่อรัฐไม่ประกาศล็อกดาวน์ก็จะไม่มีเงินช่วยเหลือมาถึงประชาชน คนหนุ่มมสาววัยทำงานอยู่ในภาวะตกงาน จึงอยากย้ำข้อเรียกร้องเดิมที่ยังไม่ได้รับการตอบรับจากรัฐบาล คือ 1.การเยียวยาด้วยเงินสดเป็นรายครอบครัว 2.การพักชำระหนี้ โดยเฉพาะหนี้กับรัฐ เช่น ที่อยู่อาศัย โดยให้ผ่อนผัน 2 ปีขึ้นไป ส่วนหนี้อื่นๆรัฐสามารถเจรจากับภาคเอกชนผ่อนผันการชำระหนี้ ไว้ 1 ปี 3.เงินกู้ ขณะนี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต้องกู้เงินนอกระบบซึ่งแพงมาก ไม่สามารถรับภาระไหว จนต้องปิดกิจการ ซึ่งปัจจุบัน มีเอสเอ็มอีมีประมาณ 3 ล้านราย จ้างงาน 13 ล้านคน เชื่อว่าหากในไตรมาตร 2 ยังไม่มีเงินช่วยเหลือจะมีคนตกงานอีก 5-6 ล้านคน

นอกจากนี้ภายในชุมชนยังมีปัญหาเรื่องการใช้สิทธิรักษาโรค เนื่องจากส่วนใหญ่ใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค แต่จากกรณีที่มีการปิดคลินิกบัตรทองไปกว่า 100 แห่ง ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ในฐานะอดีตรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขตนเรียกร้องมาตลอดว่าการแก้ไขปัญหาทุจริตด้วยการปิดคลินิก โดยไม่แก้ไขระบบ ทำให้ประชาชนผู้ใช้สิทธิ์ได้รับความเดือดร้อน เฉพาะชุมชนนี้และใกล้เคียงมีผู้ใช้สิทธิประมาร 30,000 ราย เดิมใช้สิทธิ์ในพื้นที่ใกล้เคียง แต่เมื่อมีการปิดคลินิกกลับได้รับการจัดสรรสถานพยาบาลที่ย่านบางกรวย จ. นนทบุรี ซึ่งไกลจากที่อยู่อาศัยมาก ทำให้ประชากรส่วนใหญ่ที่เป็นผู้สูงอายุเดินทางไม่สะดวก การปิดคลินิกจึงไม่ใช่การแก้ไขแต่เป็นการผลักภาระให้ประชาชน

คุณหญิงสุดารัตน์ ได้เสนอว่าการแก้ปัญหาเรื่องนี้คือต้องวางระบบระหว่าง สปสช.กับคลินิกให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพราะจำเป็นต้องทำให้คลินิกบัตรทองกว่า 100 แห่งกลับมาเป็นคลินิกชุมชนอบอุ่นใจ และต้องมีคลินิกใกล้บ้านใกล้ใจไว้เป็นที่พึ่งของประชาชน