เลือก "เนติวิทย์" นั่ง "นายกฯ จุฬาฯ" เจ้าตัวยัน พร้อมผลักดันสังคมให้ปราศจากการครอบงำ
พ่อเฒ่า"วอน ตร.กองปราบคลี่คดี"ลูก"ดับปริศนา
รอปาฏิหาริย์! อาการนักเรียน 9 ขวบเหยื่อพลุระเบิดใส่ศีรษะโคม่า
โฆษกรัฐบาลยันยังไม่มีแนวคิดปรับภาษีมูลค่าเพิ่ม
เมื่อวันที่ 1 เม.ย. นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นักกิจกรรมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ผมขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ผมและพรรคเข้ามาบริหารองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาฯ (อบจ.) ในภาคการศึกษาหน้า ปีนี้นิสิตจุฬาฯ ออกมาใช้สิทธิ 14,691 คน สูงที่สุดในรอบ 10 ปี ส่วนตัวผมก็ได้คะแนนอย่างไม่คาดคิด กล่าวคือ 10,324 เสียง ซึ่งคิดเป็นกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของผู้มาใช้สิทธิ ที่เป็นเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะตัวผมมีดีอะไร (แม้อาจจะมีคนเชื่อแบบนั้นก็ตาม) แต่นิสิตคงเล็งเห็นแล้วว่า ตลอดหลายปีมานี้ สังคมของเราเสื่อมถอยลงไปเรื่อยๆ และมหาวิทยาลัยก็เป็นส่วนหนึ่งในการค้ำยันให้สังคมเผด็จการยังดำเนินต่อไปได้ มหาวิทยาลัยไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของนิสิต บุคลากร ชุมชน และสังคม ดังนั้นด้วยโอกาสนี้ นิสิตจึงต้องการให้มหาวิทยาลัยดำเนินแนวทางไปในทางที่เป็นประโยชน์แก่ตัวนิสิตและสังคมมากขึ้น ละเลิกการแสวงหากำไรที่มุ่งเน้นแต่การพัฒนาพื้นที่ ทำลายชุมชนรอบรั้วของเรา โดยเฉพาะชุมชนสามย่าน หยุดทำลายมรดกทางวัฒนธรรมอย่างศาลเจ้าแม่ทับทิมที่มีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรม ให้ศาลเจ้ากับคอนโดมิเนียมใหม่อยู่ร่วมกันได้ และเป็นส่วนหนึ่งอย่างแท้จริงในการสร้างประชาธิปไตยในสังคม
เสียงที่สะท้อนผ่านพรรคของเราซึ่งมีนโยบายในการพัฒนาสังคมและเน้นความหลากหลายแตกต่าง ก็แสดงให้เห็นว่าความแตกต่างหลากหลายกำลังถูกคุกคามมากแค่ไหน การจับกุมคุมขังคนคิดเห็นแตกต่างนั้นกำลังจะแบ่งแยกสังคมออกเป็นเสี่ยงๆ โดยเฉพาะมาตรา 112 กำลังกัดกร่อนความไว้วางใจของคนรุ่นใหม่กับสังคมที่พวกเขาอยู่ เพนกวิน รุ้ง ป้าอัญชัญ และคนอื่นๆ ที่โดนคดีมาตรา 112 และคดีทางการเมืองอื่นควรได้รับการประกันตัว สังคมควรจะอยู่ร่วมกันได้บนพื้นฐานของเหตุผล ความจริง และความเคารพ ที่ปราศจากความกลัว การครอบงำ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องท้าทาย ผมและสมาชิกพรรคทุกคนรู้สึกหนักอึ้งไม่น้อยต่อความคาดหวังที่มีให้กับพวกเรา แต่ก็มีความตื่นเต้นอย่างมากที่จะได้มีโอกาสผลักดันสิ่งนี้ให้เกิดขึ้น โดยจะพยายามอย่างเต็มที่ในปีการศึกษาที่จะถึงนี้ (ขณะนี้ ผมยังเป็นนายกสโมสรนิสิตรัฐศาสตร์จนถึงพฤษภาคมนี้)
ผมขอขอบคุณนิสิตทั้งหลายที่โหวตผมและเพื่อนๆ ใครไม่โหวตพวกเรา ก็ต้องขอบคุณเช่นกัน การมาใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประชาธิปไตยในจุฬาฯ ผมขอบคุณเพื่อนๆนิสิตจากหลายคณะที่คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังช่วยทำภาพประชาสัมพันธ์ คลิปวิดีโอ และให้คำแนะนำต่างๆ ขอบคุณเพื่อนนิสิตที่เรียนจบไปแล้วแต่ก็เป็นห่วงใย โดยเฉพาะเหล่าผู้ถูกจุฬาฯ กลั่นแกล้งตัดคะแนนในกรณีถวายสัตย์ฯ เมื่อสามปีก่อนที่เชียร์เต็มที่ให้กับเพื่อนที่ไม่เรียนจบสักทีคนนี้ อาจารย์จากหลากหลายคณะและกัลยาณมิตรนอกแวดวงมหาวิทยาลัยที่เมื่อขอคำแนะนำปรึกษาก็ยินดีช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ผมยังรู้สึกดีใจมากด้วยที่ "บ้าน" คือ "คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ" นิสิตออกมาใช้สิทธิสูงกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ มากที่สุดในรอบหลายสิบปี การที่มีกำลังใจจากที่นี่ เป็นสิ่งสำคัญมาก การทำงานคงไม่ง่ายและคงจะเหน็ดเหนื่อยเอาการ ผมหวังว่าจะได้รับคำแนะนำตักเตือนฉันมิตร และคำชี้แนะจากนิสิต บุคลากร และภาคส่วนต่างๆ ของสังคม ในสิ่งต่างๆ ที่พวกเราจะทำ ผมหวังว่าจะได้รับฟังนิสิต บุคลากร และท่านอื่นๆ มากยิ่งขึ้น กระนั้นในที่สุดแล้ว งานนี้ไม่ใช่งานของกลุ่มคนไม่กี่คน ถ้าอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง ต้องมาร่วมด้วยช่วยกัน พวกเราหวังเป็นอย่างที่สุดว่า นิสิตจะมาร่วมผลักดันจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้เป็น “จุฬาของทุกคน” อย่างแท้จริง