“องอาจ” แย้มแนวทาง ปชป.คัดเลือกผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เป็นคนรุ่นใหม่ ต้องแบกรับภารกิจยุคหลังโควิด รับมือการแข่งขันที่ไม่หยุดนิ่งได้
พี่ชายทำเรื่องน้องสาวตามเคลียร์ "อิมอิม" เปิดใจหลังเจอ "หนุ่ม กรรชัย" ฟาดปม "พญานาค"
ทำไมหน้าคุ้นๆ ? “เป้ย-อาร์” แชะภาพร่วมเฟรมกันครั้งแรกในรอบหลายปี
เมื่อวันที่ 7 มี.ค. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และประธานยุทธศาสตร์ กรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้รับผิดชอบพื้นที่ กรุงเทพมหานคร กล่าวถึงเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. และ ส.ก. ว่า เมื่อดูไทม์ไลน์การเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศในขณะนี้ จึงคาดการณ์ได้ว่าจะมีขึ้นประมาณเดือน ต.ค. เพราะเมื่อปลายเดือน ธ.ค. 2563 ได้เริ่มต้นเลือกตั้งนายก อบจ. และ สมาชิกสภา อบจ. หลังจากนั้น 3 เดือนถัดมาในปลายเดือน มี.ค. 2564 จะมีการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ ต่อจากนั้นอีก 3 เดือนถัดไป ในปลายเดือน มิ.ย. 2564 จะมีการเลือกตั้ง อบต. ทั่วประเทศ ดังนั้นจึงเชื่อว่าประมาณต้นเดือน ต.ค. 2564 ก็น่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ สก.
นายองอาจ กล่าวต่อว่า เกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส,ก. นั้น ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ได้ดำเนินการแล้วใน 3 ส่วนสำคัญ คือ ส่วนแรก เรื่องการเตรียมการนโยบายในการบริหารกรุงเทพมหานคร ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการสร้างนโยบายสาธารณะที่เกี่ยวข้องกับกรุงเทพมหานคร มีการจัดกิจกรรมรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนผ่านรูปแบบต่างๆ ทั้งในระบบออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายกรุงเทพมหานครเพื่อประชาชน ซึ่งการดำเนินการในเรื่องนโยบายก็ผ่านพ้นไปด้วยดี และขณะนี้คณะทำงานด้านนโยบายกรุงเทพมหานคร ของพรรคก็รวบรวมความคิดเห็นจากพี่น้องประชาชน ภาคส่วนต่างๆ มาวิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพื่อให้ออกมาเป็นนโยบายที่เป็นรูปธรรม เห็นถึงแนวทางปฏิบัติ เริ่มตั้งแต่การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ สก. ไปจนถึงเมื่อได้รับการเลือกตั้ง ก็สามารถนำนโยบายนี้ไปปฏิบัติได้จริงเพื่อประโยชน์ของกรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่องต่อไป
ส่วนที่ 2 การเตรียมการในส่วนของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ทั้ง สก. และผู้ว่าฯ กทม. โดยในส่วนของ ส.ก. นั้น นอกจากพรรคฯ จะมีส่วนที่เป็น ส.ก. เดิมของพรรคฯ ที่พร้อมทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่องประมาณ 20 คนแล้ว พรรคฯ ยังได้เปิดรับสมัครผู้สนใจลงสมัคร ส.ก. กับพรรค ทั้งระบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยพรรคได้เชิญมาสัมภาษณ์ และได้พิจารณาคัดเลือกไว้จำนวนหนึ่งเพื่อให้ลงสมัคร ส.ก. ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งมีคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่จำนวนมากให้ความสนใจทำงานในระดับท้องถิ่น ขณะนี้พรรคได้พิจารณาผู้สมัครเรียบร้อยไป 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว เหลือเพียงบางเขตที่ต้องใช้เวลาพิจารณาคัดสรรบุคคลที่เหมาะสมเนื่องจากมีผู้สนใจหลายคน ทั้งนี้ก็เพื่อให้แต่ละเขตได้บุคคลที่มีความตั้งใจ มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ พร้อมทำงานให้พี่น้องประชาชนให้ดีที่สุดต่อไป
ส่วนที่ 3 ในส่วนของผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคมีทั้งในส่วนที่ได้ทาบทามผู้มีความรู้ความสามารถ มีความเหมาะสมที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ว่าฯ กทม. และขณะเดียวกันก็มีผู้ให้ความสนใจมาสมัครด้วย จึงต้องนำบุคคลเหล่านี้มาพิจารณาร่วมกันทั้งหมด ผ่านกระบวนการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นของพรรค ขณะนี้เหลือบุคคลที่เข้าข่ายการพิจารณา 3-4 คน ซึ่งก็ต้องเข้าสู่กระบวนการการพิจารณาตามข้อบังคับพรรคต่อไป และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม พรรคจะได้ประกาศตัวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในนามของพรรคต่อไป
“ผมเชื่อมั่นว่าบุคคลที่พรรคพิจารณานั้น จะเป็นบุคคลที่สอดคล้องกับความต้องการของพี่น้องประชาชนในกรุงเทพมหานคร ที่ต้องการบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถมาแก้ไขปัญหาของ กทม. ที่มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นการที่กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดนิ่ง พรรคจึงจำเป็นที่จะต้องสรรหาบุคคลที่มีความเหมาะสมจริงๆ ที่จะสามารถมาแบกรับภารกิจอันสำคัญของ กทม. เพราะการแข่งขันในอนาคต ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงนี้ ผมถือว่าการบริหารเมืองหลวงของทุกประเทศจะต้องแข่งขันกันสูง เพื่อทำให้เมืองหลวงของประเทศพัฒนาไปได้ ทำให้ผู้คนสามารถใช้ชีวิต ประกอบธุรกิจ ทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีความสุขในยุคนิวนอร์มอลต่อไป” นายองอาจ กล่าว