ตร.ตามรวบ "เด็ก" ลอบค้า "เคนมผง" ย่านสุทธิสาร ยันรอผลชันสูตรศพ ก่อนแจ้งข้อหาเพิ่ม
เมื่อวันที่ 15 ม.ค. พ.ต.อ.ภูริส จินตรานันท์ ผกก.สน.สุทธิสาร เปิดเผยความคืบหน้ากรณี น.ส.ลลิตา เทินสะเกษ อายุ 19 ปี เสียชีวิตจากการเสพยาเสพติด ภายในห้องพักซอยรัชดาภิเษก 18 ว่า จากการตรวจสอบแชทไลน์ของผู้เสียชีวิตพบการพูดถึงยาเสพติดตัวใหม่ คือ "เคทะเลทราย" ที่มีฤทธิ์ร้ายแรงกว่า "เคนมผง" จากข้อมูลดังกล่าวเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบจนพบว่า ก่อนเกิดเหตุ น.ส.ลลิตา เดินทางไปเสพยาที่ย่านถนนจันทน์ แล้วกลับมาห้องพักก่อนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และจากการสอบถามพยานซึ่งเป็นเพื่อนของผู้เสียชีวิตที่ไปร่วมเสพยาด้วยกันแล้วเกิดอาการน็อกยา แต่ไม่เสียชีวิตนั้นพบว่า เป็นคนละกลุ่มกับวัยรุ่นที่เสพยาจนเสียชีวิตในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร ส่วนยาเสพติดเป็นของใคร และใครเป็นผู้นำมาจำหน่าย ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัว
ตร.โชคชัย ยันรู้เบาะแส จ่อรวบมือปล่อย"เคนมผง"
โฆษก กอ.รมน.แจงยิบโซลาร์เซลล์ 5 แห่งทำไมราคาสูงกว่า "พิมรี่พาย"
ที่สุดของสามี “ดีเจต้น ” เปย์กระเป๋าหรู “ใหม่” บอกอยากให้ก็ให้ ไม่มีวาระพิเศษ
ล่าสุดมีรายงาน ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสาร สามารถจับกุม นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นคนขายเคนมผง ให้กับ น.ส.ลลิตา นำไปเสพก่อนเสียชีวิตในห้องเช่าของแฟนหนุ่ม โดยสามารถจับกุมได้พร้อมของกลาง ยาเคนมผง 1 กรัม โดย นายเอ รับสารภาพว่า ยาเคนมผง ดังกล่าว เป็นของนายวัชระ เชียงฉิน หรือนายโบ้ ผู้ต้องหาคดียาเคนมผง ของ สน.วัดพระยาไกร โดยรับมากรัมละ 600 บาท แล้วมาบวกกำไรกรัมละขาย 700 บาท ส่วนเรื่องส่วนผสม เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย ส่วนข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ น.ส.ลลิตา ต้องหลักฐานการชันสูตรศพว่าภายในร่างกายของ น.ส.ลลิตา มีสารเสพติดชนิด เคนมผง หรือไม่