ปลัด สธ.ห่วงอากาศเย็นลงทำเจ็บป่วยง่ายขึ้น โดยเฉพาะโรคทางเดินหายใจ ทำให้แยกอาการจากโรคโควิด 19 ได้ยาก
"หมอแม่สอด"อยากร้องไห้ จังหวัดรับ 40 คนไทยจากเมียนมาพบติดเชื้อโควิด 17 ราย
"แหม่มโพธิ์ดำ" แฉรถทหารรับ 40 สาวไทยจากบ่อนเมียนมาส่ง Local Quarantine
เมื่อวันที่ 8 ม.ค.นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 8-12 ม.ค.2564 กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนประเทศไทยจะมีอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิลดลง 5-7 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะภาคตะวันเฉียงเหนือ ภาคเหนือ อากาศที่หนาวเย็นลงและแห้ง อาจทำให้ประชาชนเจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะในเด็ก ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่างๆ และผู้ป่วยโรคหอบหืด หรือมีภาวะหลอดลมอักเสบ หากเจ็บป่วยจะมีอาการรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ อาจมีอาการรุนแรง หายใจหอบเหนื่อย หายใจไม่อิ่ม หรือหายใจมีเสียงหวีดจากภาวะหลอดลมตีบได้ จึงขอให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังพกยาประจำตัวติดไว้เสมอ สำหรับประชาชนทั่วไป ขอให้รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ทำร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ ซึ่งในเดือน ม.ค. – ก.พ.2563 เป็นช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สูงถึง 85,108 ราย คิดเป็นร้อยละ 70 ของผู้ป่วยทั้งปีที่มี 120,726 ราย เสียชีวิต 3 ราย อีกทั้งขณะนี้ประเทศไทยยังเผชิญกับสถานการณ์โรคโควิด 19 การเจ็บป่วยโรคทางเดินหายใจอาจทำให้แยกอาการจากโรคโควิด 19 ได้ยาก ต้องตรวจทางห้องปฏิบัติการเท่านั้น สิ่งสำคัญคือ ขอให้ประชาชนยังคงสวมหน้ากากผ้าที่สะอาดหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง สามารถช่วยป้องกันโรคโควิด 19 และโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ได้ และดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง โดยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลากหลาย ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว นอนหลับพักผ่อนให้เพียง งดดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะไม่ได้ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น แต่เป็นปัจจัยเสริมให้เสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากอากาศหนาวเย็นได้