ชาวบ้านผวาหนัก หลังช้างป่าทำร้ายพระสงฆ์จันทบุรีมรณภาพ ขณะออกบิณฑบาต คาดเป็นตัวเดียวกันที่ทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิต เมื่อช่วงต้นปีใหม่ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 6 ม.ค. ร.ต.อ.กฤษกร กลมภพ รอง.สว.(สอบสวน) สภ.แก่งหางแมว รับแจ้งจากชาวบ้าน ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ว่ามีเหตุช้างป่าทำร้ายพระสงฆ์มรณภาพ โดยเหตุเกิดบริเวณ บ้านคลองโป่ง ม.10 ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี
"พิธา" อภิปรายโควิดซัดรัฐบาลบริหารล้มเหลวผิดทิศผิดทาง
เปิดไทม์ไลน์ตาวัย 88 ปีดับจากโควิดรายล่าสุด
สนั่นเครื่อง นอภ.แก่งหางแมว , นายอนันต์ นพเวช หน.อุทยานแห่งชาติเขา 15 ชั้น, นายเดช จินโนรส นายก อบต.ขุนซ่อง , แพทย์เวร รพ.แก่งหางแมว ตลอดจนกำลังเจ้าเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ร่วมเดินทางตรวจสอบ
โดยในที่เกิดเหตุ พบเป็นถนนลูกรัง สายบ้านคลองโป่ง รอยต่อ บ้านน้ำเป็น ห่างจากสำนักสงฆ์บ้านคลองโป่ง ประมาณ 300 เมตร จากการตรวจสอบ พบศพ พระประชุม ปฺนติโต อายุ 59 ปี นอนมรณภาพอยู่ในป่าหญ้าข้างทาง มีบาดแผลถูกช้างป่าทำร้ายที่บริเวณศีรษะและตามร่างกายหลายแห่ง ใกล้กันพบบาตรพระ และฝาบาตร สภาพบุบบี้ ตกอยู่ในป่าหญ้า และยังพบรอยเท้าช้างป่าขนาดใหญ่ ตลอดจนรอยเลือดจำนวนมาก อยู่บริเวณโดยรอบจุดที่พบศพ ทางเจ้าหน้าที่ จึงได้บันทึกภาพที่เกิดเหตุ บันทึกไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนของ ร.ต.อ.กฤษกร กลมภพ ร้อยเวรเจ้าของคดี เบื้องต้น พระสุกฤษฏิ์ ปัญญาวโร เจ้าสำนักสงฆ์บ้านคลองโป่ง และเลขาเจ้าคณะตำบลขุนซ่อง เขต 1 ให้การว่า เมื่อช่วงเช้ามืดเวลาประมาณ 03.00 น. พบมีช้างป่าตัวสูงใหญ่ เดินเข้ามาหากินบริเวณสำนักสงฆ์ ซึ่งไม่ได้เอะใจ เนื่องจากปกติ จะมีช้างป่าเข้ามาหากินรอบสำนักสงฆ์บ่อยครั้ง แต่ไม่เคยทำร้ายใคร จนเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา พระประชุม พระลูกวัด ได้เดินออกไปบิณฑบาตตามปกติโดยใช้เส้นทางดังกล่าว ได้หายตัวไปไม่ได้กลับมาที่สำนักสงฆ์ ขณะที่ชาวบ้านใกล้เคียง บอกว่า ได้ยินเสียงช้างป่าจำนวนมาก ร้องดังลั่นป่า มาจากบริเวณใกล้กับที่พบศพ จึงได้เอะใจ และออกตามหา จนมาพบว่า พระประชุม ได้ถูกช้างป่าทำร้ายมรณภาพแล้ว คาดว่าน่าจะเป็นช้างตัวเดียวกันกับที่พบที่สำนักสงฆ์
ต่อมา เมื่อเวลา 16.00 น.วันเดียวกัน นายสุธี ทองแย้ม ผวจ.จันทบุรี พร้อมนายอำเภอแก่งหางแมว หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณจุดที่ พระภิกษุประชุม ปนภิโต ถูกช้างป่าทำร้าย จากนั้นได้เดินทาง ไปเป็นประธาน สรงน้ำศพ พระประชุม ณ ศาลาสำนักสงฆ์บ้านคลองโป่ง โดยมีพระสงฆ์ ตลอดจนชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมในพิธีด้วยความเศร้าสลด
ทางด้าน นายสมบัติ ธรรมโชติ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว หลังได้ทำการตรวจสอบและติดตามข้อมูล ทราบว่า ช้างป่าตัวดังกล่าว น่าจะเป็นตัวเดียวกันกับที่ทำร้าย นายบุญเชิด ทรัพย์สวัสดิ์ อายุ 61 ปี จนเสียชีวิต เมื่อ 4 วันที่ผ่านมา เนื่องจากวัดรอยเท้าแล้วพบว่า มีขนาดวงรอบ 30 ซ.ม. เท่ากัน และตัวสูงใหญ่ สองเมตรกว่า น้ำหนักประมาณ 5 ตัน ไม่มีอาการตกมันแต่อาจจะเป็นไปด้วยอุปนิสัยดุร้าย เนื่องจากเป็นช่างป่าแตกออกจากฝูง พร้อมกันนี้ ได้แจ้งเตือน ชาวบ้านในพื้นที่ ในช่วงนี้หากไม่มีความจำเป็น อย่าออกจากบ้านในช่วงเวลากลางคืน หรือ ช่วงเช้ามืด อาจจะถูกช้างป่าทำร้าย โดยทางเจ้าหน้าที่ อยู่ในระหว่างเร่งผลักดันช้างป่า ให้กลับขึ้นเขาโดยเร็ว และหากพบเห็น อย่ากระทำการอย่างหนึ่งอย่างได ที่เกิดเสียงดัง โดยให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ หรือผู้นำชุมชนได้ทราบทันที เพื่อเร่งผลักดันให้ออกห่างจากชุมชนต่อไป
