เหรียญที่เราเห็นบางครั้ง อาจจะไม่ได้มีแค่ 2 ด้าน เท่านั้น เช่นเดียวกับชีวิตของ “ลีนา จังจรรยา” หรือ “ลีน่าจัง” ใครไม่รัก ไม่คิดถึง แต่หญิงชรา วัย 91 ปี คนนี้เค้าคิดถึง เพราะหากไม่มี “ลีน่าจัง” ป่านนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะมีบ้านอยู่มาจนถึงวันนี้หรือไม่
แม้เหตุการณ์จะผ่านไปแล้วถึง 9 ปี เต็ม ที่ “ลีนา จังจรรจา" หอบเงินสด 7.6 หมื่นบาท มาช่วยเหลือ นางปิ่น สุขเสริม หรือ “ยายปิ่น” แม่เฒ่าวัย 91 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนางสมาน สุขเสริม อดีตแม่บ้านของนายนาธาน โอมาน นักร้องชื่อดังในขณะนั้น โกงเงินไปกว่า 3 แสนบาท โดยมีการเอาโฉนดที่ดินไปจำนองและกู้เงินนอกระบบจากนายทุน หลังหลงเชื่อใจนักร้องดัง เพราะเป็นแม่บ้านมานานนับ 10 ปี และไม่ได้ทำสัญญากู้ยืมเงินนักร้องรายนี้ จึงนำเงินสดไปมอบให้ทั้งหมด จนกระทั่งกลายเป็นข่าวใหญ่โต เมื่อช่วงเดือน พ.ย. 2552 เมื่อนางสมาน ตัดสินใจเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.หัวหมาก ให้ดำเนินคดีนายนาธาน ฐานฉ้อโกง ไม่ยอมคืนเงิน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง พลิกปูมชีวิต "ลีน่าจัง" เธอเป็นใคร? ขอบคุณภาพจาก : เนชั่น กรุ๊ป,อินเทอร์เน็ต
ที่ดินหนึ่งในหลายแปลง ที่นางสมาน นำไปกู้เงิน กับนายทุนนั้นก็มีชื่อของนางปิ่น เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ รวมอยู่ด้วย หากนางลีน่าจัง ไม่ปรากฏตัว หยิบยื่นความช่วยเหลือ นำเงินมาให้ ในการไถ่ถอนที่ดินครั้งนั้น ก็ไม่รู้ว่าหญิงชรารายนี้ จะมีที่อยู่หลงเหลือหรือไม่
ยายปิ่น หญิงชราวัย 91 ปี ตอกย้ำว่า ไม่ว่าใครจะมองลีน่าจังในมุมไหน แต่ในมุมของยายปิ่น ลีน่าจังไม่ต่างแม่พระ ที่หยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้ เพราะหากไม่มีลีน่าจัง ก็คงไม่มียายปิ่นมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะอาจตรอมใจตายกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตนเองและลูกสาว โดยที่ผ่านมาลีน่าจังยังโทรศัพท์มาพูดคุยด้วยอยู่บ่อยครั้ง เพื่อสอบถามความเป็นอยู่
ยายปิ่น ยังจำเป็นการณ์ตั้งแต่เกิดเหตุได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะอายุมากขึ้น และหูอาจได้ยินไม่ชัดเจนเหมือนแต่ก่อน แต่ก็สะท้อนตัวตนของลีน่าจัง ให้ทีมข่าวฟังด้วยความชื่นชม ว่า ในวันที่ 7 ม.ค. 2553 เป็นวันแรกที่ไปไถ่ถอนที่ดินจากมือนายทุน ยายปิ่นนำเงินสดของลีน่าจัง จำนวน 7.6 หมื่นบาท เดินทางไปยังสำนักงานที่ดินจังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมกับนางสมาน และในระหว่างไถ่ถอนที่ดินอยู่นั้นยายปิ่นก็เป็นลมหลายครั้ง จนญาติๆ และเจ้าหน้าที่ต้องเรียกรถพยาบาลมาดูแลอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งทำธุระเสร็จสิ้น นางสมานจึงพานางปิ่นกลับบ้าน พร้อมกับได้คืนโฉนดที่ดินคืนมาสำเร็จ เพราะการช่วยเหลือของลีน่าจัง
การช่วยเหลือครั้งนั้น ทำให้ยายปิ่นถ่ายภาพคู่กับลีน่าจังเก็บไว้เป็นที่ระลึก และแขวนติดอยู่บนบ้าน เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจ ว่า ครั้งหนึ่งลีน่าจัง เคยยื่นมือมาช่วยเหลือทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
ยายปิ่น ยังบอกกับทีมข่าวว่าทุกๆ ครั้งที่ลีน่าจังโทรศัพท์มาคุยด้วย นอกจากจะสอบถามถึงความเป็นอยู่แล้ว ลีน่าจัง ยังได้เอ่ยปากชวนยายปิ่นให้เดินทางมาเยี่ยมที่ กทม. ด้วย
ปัจจุบันนี้ ยายปิ่น สุขภาพยังแข็งแรง แม้จะเจ็บป่วยบ้างเพราะความแก่ชรา โดยอาศัยอยู่กับญาติ ในบ้านเลขที่ 42 หมู่ที่ 8 ต.ไก่คำ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ส่วนนางสมานนั้น ยายปิ่นบอกว่า ไปเปิดร้านขายอาหารตามสั่ง ใน จ.นครราชสีมา และจะกลับมาเยี่ยมบ้าน และโทรศัพท์มาพูดคุยอยู่บ่อยครั้ง
ยายปิ่น ยังกล่าวทิ้งท้าย กับทีมข่าวด้วยว่า ไม่ว่าใครหรือสังคม จะมองลีน่าจัง ในแง่มุมไหน แต่สำหรับยายปิ่นนั้น มองลีน่าจังเป็นคนดี ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในยามเดือดร้อน ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทำให้ทุกวันนี้ ยังคิดถึงบุญคุณของลีน่าจังมาโดยตลอด แม้จะไม่ได้เจอหน้ากันมาร่วม 10 ปีแล้วก็ตาม