พลิกปูมชีวิต "ลีน่าจัง" เธอเป็นใคร?

2018-07-20 09:39:48

พลิกปูมชีวิต "ลีน่าจัง" เธอเป็นใคร?

Advertisement

เมื่อพูดถึง ลีน่า จัง ไม่มีใคร ไม่รู้จัก เพราะที่ผ่านมา มักปรากฎเป็นข่าว มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องราวชีวิตครอบครัว การทำงาน และ บทบาททางการเมือง ลีนา จัง เกิดในครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน เคยเป็นเจ้าของช่องทีวีดาวเทียมฮอตทีวี แต่ก็ถูกคำสั่งปิดในเวลาต่อมา



ลีนา จัง เกิดในครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน มีชื่อแต่แรกเกิดว่า ลีนา แซ่จัง เป็นบุตรคนที่ 9 จากทั้งหมด 12 คน บิดาชื่อ คี่หงอ แซ่จัง มารดาชื่อ ล่วงมุ้ย แซ่ตั้ง ชีวิตครอบครัว ลีนา สมรสกับนายวันชัย แสงพรศรีอรุณ มีบุตรชายด้วยกันสองคน ต่อมาหย่าร้างกัน




ลีนาสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และ ยังเป็นประธานบริษัทขายส่งเครื่องสำอาง ตั้งร้านชื่อไฮโซไซตี้อยู่ที่ประตูน้ำเซ็นเตอร์ ลีนายังเปิดมูลนิธิลีนา เพื่อให้การช่วยเหลือด้านกฎหมายแก่ประชาชน และเคลื่อนไหวทางการเมือง นอกจากนี้ ลีนา จังจรรจา ยังได้เปิดช่องยูทูปของตัวเอง และจัดรายการด้วยตัวเอง โดยมีคนกด subscribers ติดตามเกือบ 1 หมื่นคน





ลีน่าจัง เคยกล่าวถึงที่มาของชื่อว่า เมื่อบิดา ไปแจ้งเกิดที่อำเภอ ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยตั้งชื่อจริงให้เธอ ปรากฏว่าช่วงนั้นมีภาพยนตร์อินเดียที่มีชื่อเสียงเรื่องหนึ่งมีนางเอกชื่อ ลีนา เจ้าหน้าที่จึงตั้งชื่อดังกล่าวให้ ส่วนนามสกุล "จังจรรจา" เธอได้เปลี่ยนในปี พ.ศ. 2547 เมื่อครั้งลงสมัครเป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานคร 



ช่วงกลางปีที่แล้ว ลีน่า จัง” เป็นข่าวดัง เมื่อเปิดตัวสามีคนที่ 9 “รังสี The Knot” นายแบบหนุ่มในสังกัด “น็อต แม็กซิม” แต่จากนั้นไม่นานทั้งคู่ก็ต้องเลิกรากันไป และ มาปรากฎเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อ ลีน่า จัง เปิดตัวสามีคนที่ 12 ชื่อว่าโดม อายุ 25 ปี ครั้งนั้นเจ้าตัวบอกว่า สามีคนนี้ จบปริญญาโท แถมทีดีกรีเป็นครูสอนเต้น สูง 175 หนัก 70 กิโลกรัม เดินคลอเคลียกันในห้างดัง






บทบาททางการเมือง

ใน 2549 ลีนาได้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา หมายเลข 142 กรุงเทพมหานคร แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง

ใน 2551 ลีนาได้ลงสมัครเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอีกครั้ง ได้หมายเลข 7 ลีน่าจังนำเสนอนโยบายจัดให้มีตั๋วอัจฉริยะอันเป็นตั๋วใช้โดยสาราธารณะทุกประเภท ทั้งรถประจำทาง รถไฟฟ้ามหานคร รถไฟฟ้าบีทีเอส และเรือด่วนเจ้าพระยา ขณะเดินหาเสียง ลีนาจังตกคลองแสนแสบพร้อมผู้ช่วยขณะพากันตรวจพิสูจน์น้ำคลอง

ต่อมาในปี 2552 ลีนาลงเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอีก หลังการลาออกของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ลีนา ได้หมายเลข 3 แต่ก็ไม่ได้รับเลือกตั้ง




จากนั้น ลีนาได้เข้าเป็นสมาชิกพรรคมัชฌิมาธิปไตย เพื่อลงเลือกตั้งในปลายปี 2550 แต่พรรคไม่สนับสนุน ลีนาจึงฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายห้าล้านบาทจากนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ หัวหน้าพรรค ทว่า ศาลยกฟ้อง

ลีนาจึงย้ายไปพรรคพลังแผ่นดินไทย แต่ที่สุดก็ไม่ได้รับการเลือกตั้ง

ในวันที่ 16 มกราคม 2551 สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสเปิดรับสมัครพนักงานเป็นวันแรก ลีนาได้ไปสมัครเป็นผู้ประกาศข่าว แต่ไม่ได้รับเลือก




ในวันที่ 21 พฤษภาคม 2557 หลังสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมฮอตทีวีของลีนาถูกสั่งปิดโดยประกาศกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) ตามการประกาศกฎอัยการศึก ลีนา แต่งชุดดำ เข้าขอความเป็นธรรมกับพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะ ผอ.รส. ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิตแต่ไม่ได้รับเชิญให้เข้าพบ 




ก่อนที่ลีนาจัง จะมาปรากฎเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อทำคลิปล้อเลียนเด็กติดถ้ำ จนถูกชาวโซเชียลโจมตีความเหมาะสม จนกระทั่งเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2561 เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เข้าแจ้งความดำเนินคดี ถ่ายคลิปในถ้ำพระยานครโดยไม่ได้รับอนุญาต กับ สภ.สามร้อยยอด และลีน่าจัง ก็เข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบ เพื่อดำเนินคดีกับโค้ชเอก ที่พาเด็กเข้าไปในถ้ำเช่นเดียวกัน


ลีน่าจัง กับสามีคนแรก