"นิกร"มั่นใจ ส.ว. หนุนสูตร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์หาร 100 ไม่พลิกในวาระ 2-3
เมื่อวันที่ 18 พ.ค.65 ที่รัฐสภา นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชพท.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ… ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า วันนี้ กมธ.มีการเชิญผู้ที่สงวนคำแปรญัตติ โดยมีทั้งหมด 16 คน เช่น นายปรีดา บุญเพลิง ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน, นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. , นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท (พทท.) นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ (พธม.) คาดว่าน่าจะใช้เวลาไม่มาก ประมาณเที่ยงก็น่าจะเสร็จ
นายนิกร กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นจะพิจารณาเรื่องคำแปรญัตติว่าจะมีความเห็นอย่างไร หากเห็นด้วยกับคำแปรญัตติก็แก้ไขเลย ก็จะถือว่าเสร็จ หลังจากนั้นก็จะไปทำรายงาน โดยวันที่ 23 พ.ค.65 ก็จะพิจารณารายงานครั้งสุดท้าย และวันที่ 24 พ.ค. 65 เวลาประมาณ 14.00 น. จะยื่นต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา หลังจากนั้นจะนัดประชุมวิป 3 ฝ่าย โดยสามารถบรรจุวาระได้ตั้งแต่วันที่ 9-10 มิ.ย.65 ซึ่งเป็นการประชุมร่วมรัฐสภาครั้งแรก แต่ในวันดังกล่าวจะมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจ และมีกฎหมายอีก 2-3 ฉบับ ต่อจากนั้นก็จะเป็นกฎหมายลูก แต่ตนคิดว่าวันดังกล่าวมีวาระเต็มก็อาจจะขยับเวลาออกไป แต่จะไม่เกินเดือน มิ.ย.อย่างแน่นอน
เมื่อถามถึง คำแปรญัตติส่วนใหญ่ สมาชิกเน้นเรื่องอะไรบ้าง นายนิกร กล่าวว่า ในส่วนของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง จะเป็นเรื่องของการจัดทำไพรมารี่โหวต ซึ่งเราได้แก้ไขไปเยอะแล้ว คิดว่าสมาชิกจะสงวนความเห็นเพื่อไปแสดงความเห็นในรัฐสภา ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะกมธ.คลายไปเยอะแล้ว แต่หลักการที่ว่าไม่มีเลยนั้นไม่ได้ โดยเปลี่ยนมาเป็นให้สมาชิกในจังหวัดเห็นชอบไม่ใช่การลงคะแนน โดยทำแค่แห่งเดียวทั้งจังหวัด คิดว่าน่าจะเป็นที่พอใจ ส่วนเรื่อง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ก็จะเป็นเรื่องวิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หารด้วย 100 หรือ 500 ที่อาจจะมีการสงวนความเห็น ทั้งนี้ในส่วนของพรรค ก.ก.แต่เดิมสงวนไว้เยอะ แต่ในการประชุม กมธ.สัดส่วนพรรค ก.ก.ได้ประเด็นที่เขาต้องการไปตามสมควร ดังนั้นคิดว่าเป็นความพอใจในระดับหนึ่ง ที่เหลือก็เป็นการแปรญัตติในส่วนอื่น เช่น หลักการในการจัดส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญคือดูความเท่าเทียมระหว่างชายหญิง แต่พรรค ก.ก.มีความเห็นว่าไม่ใช่ชายหญิง แต่เป็นไปตามเพศสภาพ ซึ่งสามารถเสนอได้ แต่ถ้ากมธ.ไม่เห็นด้วยก็ไปพูดในรัฐสภา
เมื่อถามว่า กังวลกระแสคว่ำร่างกฎหมายลูกทั้งสองฉบับหรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า ตนไม่กังวล แต่จะมีอยู่ประเด็นเดียว คือ การคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หารด้วย 100 หรือ 500 แต่โดยหลักการทั้ง 4 ร่างที่เสนอมานั้น หารด้วย 100 ทั้งหมด ถ้าหารด้วย 500 จะต้องยกเป็นประเด็นขึ้นมาที่แตกแยกจากหลักการที่รับมา ดังนั้น จึงไม่มีความกังวลและคิดว่าน่าจะผ่านวาระ 2-3 เพราะส.ส.ที่ลงนามยื่นร่างทั้ง 4 ร่างจะไปโหวตอีกข้างได้อย่างไร นอกจากนี้ การโหวตครั้งนี้ใช้เสียงทั้งส.ส.และส.ว. ซึ่งในกมธ.เท่าที่ฟังมีส.ว.เห็นด้วยกับสูตรหารด้วย 100 หลายคน จึงคิดว่าส.ว.น่าจะโหวตผ่านร่างกฎหมายนี้ และไม่น่าจะมีพลิกในวาระ 2-3 เพราะมาด้วยดีตามขั้นตอนและระยะเวลาที่กำหนดไว้
เมื่อถามว่า คิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองก่อนหรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า ไม่น่าจะมี เพราะเราระวังกันมาขนาดนี้แล้ว ส่วนจะอยู่ยาวจนครบวาระหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ นั่นเป็นเรื่องการเมือง ทั้งนี้ จะตัดสินใจอย่างไรก็ได้แต่กฎหมายต้องพร้อมอย่าให้มีปัญหา