"หญิงหน่อย"เดินสำเพ็งช่วยผู้สมัคร ส.ก.หาเสียงลั่นนำทัพฟื้นเศรษฐกิจให้คนกรุง

2022-05-11 18:53:55

"หญิงหน่อย"เดินสำเพ็งช่วยผู้สมัคร ส.ก.หาเสียงลั่นนำทัพฟื้นเศรษฐกิจให้คนกรุง

Advertisement

"หญิงหน่อย"เดินสำเพ็งช่วยผู้สมัคร ส.ก.หาเสียง ประกาศนำทัพฟื้นเศรษฐกิจให้คนกรุง ปลดล็อกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นการทำมาหากิน ดันกองทุน SMEs เติมทุน ช่วยผู้ประกอบการรายย่อย ควบคู่กับการสร้าง บำนาญประชาชน 3,000 บาทเพื่อเพิ่มกำลังซื้อให้ประเทศ

เมื่อวันที่ 11 พ.ค.65  คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย พร้อม นายศรัณยู คงสวัสดิ์เกียรติ ผู้สมัคร ส.ก.หมายเลข 5 เขตสัมพันธวงศ์ พรรคไทยสร้างไทย พบป่ะพ่อค้าแม่ขายย่านตลาดสำเพ็ง และเยาวราช สอบถามถึงการค้าการขาย โดยผู้ค้าระบุว่า ยอดขายตกต่ำลงมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเมื่อเจอเข้ากับสถานการณ์โควิด-19 ยิ่งทำให้ สภาพการค้าที่เคยเฟื่องฟู ทั้งที่สำเพ็งและเยาวราช ต้องซบเซาอย่างต่อเนื่อง กำลังซื้อจากพี่น้องประชาชน หดหายไปมาก พี่น้องประชาชนเลือกซื้อหาเฉพาะสินค้าหรือสิ่งของจำเป็นเพื่อการอุปโภคบริโภคเท่านั้น โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่เลือกลดปริมาณการซื้อลง ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นผลมาจากต้นทุนของสินค้าต่างๆที่แพงขึ้น

คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่าปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ไม่ยากโดยเริ่มจาก 1.ต้องปลดปล่อยประชาชน เช่น ผู้ค้า ผู้ประกอบการต่างๆ ให้สามารถทำมาหากินได้ ซึ่งพรรคไทยสร้างไทยได้ประกาศปล็ดล็อคกฎหมายที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นการทำมาหากินที่มีประมาณ 1,300 ฉบับ เช่นในกลุ่ม ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็ก กลุ่ม Craft Beer โดยจะพักใช้ กฎหมาย ระเบียบ ใบอนุญาต แขวนการบังคับใช้ไว้ชั่วคราว 3-5 ปีโดยเฉพาะในส่วนที่เป็นอำนาจของกทม.จะทำทันทีใช้พื้นที่ กทม.เป็นพื้นที่นำร่อง และส่วนที่อยู่นอกเหนืออำนาจของผู้ว่า พรรคไทยสร้างไทยจะประสานงานในระดับสภาและระดับรัฐบาลต่อไป

2.เติมทุนให้ผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งพรรคไทยสร้างไทย มีนโยบายกองทุน SMEs โดยกองทุน SMEs จะเป็นการให้สินเชื่อเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs โดยเฉพาะ Micro SMEs ได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ สามารถกู้ได้ตั้งแต่หนึ่งแสนบาทขึ้นไป โดยใช้ธุรกิจของตนเองเป็นหลักประกัน ซึ่งในกลุ่ม SMEs พรรคไทยสร้างไทยจะต้องเข้าไปสนับสนุน เพราะหากปล่อยให้ภาค SMEs ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไม่มีทุน ไปต่อไม่ได้ หรือต้องกู้ดอกเบี้ยสูง จะส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจอย่างรุนแรง และจะมีพี่น้องประชาชนตกงานอีกมหาศาล

3 พรรคไทยสร้างไทย จะเพิ่มกำลังซื้อให้กับประเทศ ด้วยการผลักดันนโยบายบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท ใช้พื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่นำร่อง สำหรับนโยบายดังกล่าว พรรคได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของผู้สูงอายุที่ทำงานอย่างหนักมาทั้งชีวิต แต่กลับ“แก่ก่อนรวย” ดังนั้นนโยบายบำนาญประชาชน จึงเป็นการตอบแทนผู้สูงวัย ยิงปืนนัดเดียวได้ประโยชน์ถึง 4 อย่าง คือผู้สูงอายุมีรายเพียงพอต่อการยังชีพอยู่ สามารถอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี สุขภาพแข็งแรง ลดภาระลูกหลาน เป็นกำลังซื้อมหาศาลให้กับเศรษฐกิจฐานราก ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศขยายตัวดีขึ้น ซึ่งนโยบายดังกล่าว ไม่ใช่การแจกเงินแบบสูญเปล่าเหมือนโครงการประชารัฐหรือประชานิยม แต่จะเป็นการสร้างเศรษฐกิจให้กลับมาหมุนเวียนตั้งแต่ระดับหมู่บ้านชุมชน ไปจนถึงระดับประเทศ เกิดการใช้จ่ายต่อยอดรายได้ และในท้ายที่สุด จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นกลับมาได้อย่างรวดเร็วและเข้มแข็งอีกครั้ง