"สกลธี" ชูเป็นผู้ว่าฯ หนุ่มได้เปรียบ ลุยงานได้เต็มที่

2022-05-09 22:17:54

 "สกลธี" ชูเป็นผู้ว่าฯ หนุ่มได้เปรียบ ลุยงานได้เต็มที่

Advertisement


"สกลธี" ชูเป็นผู้ว่าฯ หนุ่มได้เปรียบ ลุยงานได้อย่างเต็มที่ พร้อมปราศรัยใหญ่ 13 พ.ค.นี้

เมื่อวันที่ 9 พ.ค.65 นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 3 กล่าวถึงการหาเสียงในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 22 พ.ค.65  ว่า แนวการดำเนินการหาเสียงของตนยังคงเป็นไปแบบผสมผสาน ทั้งสื่อออนไลน์ การลงพื้นที่ และการขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์นำเสนอนโยบายตามเวทีต่างๆ ในช่วงหลังๆ จะรับเชิญ ไปร่วมดีเบตกับผู้สมัครคนอื่นๆ ซึ่งตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะได้แสดงนโยบายได้ตรงกลุ่ม ตามความสนใจของเวทีนั้นๆ ถ้ามีโอกาส ก็จะพยายามไปในทุกเวที

นายสกลธี กล่าวต่อว่า ในส่วนของสื่อโซเชียลออนไลน์ตอนนี้ก็มีการเผยแพร่ข้อมูลนโยบายต่างๆ ไปในทุกช่องทางโดยเฉพาะ เฟสบุ๊ก สกลธี ภัททิยกุล ของตน มีเนื้อหาเผยแพร่คอนเทนต์ในแง่มุมต่างๆ ก็พบว่าได้รับความสนใจจากชาว กทม.รวมไปถึงพี่น้อง ในจังหวัดอื่นๆ เข้ามาแสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจ ส่วนที่นำเสนอข้อร้องเรียนหรือข้อติชมต่างๆ ตนก็รับฟังทุกประเด็นไม่มีการปิดกั้น เพราะถือว่าเป็นเทคโนโลยีในยุคนี้ที่ต้องนำมาใช้เพื่อเป็นการสื่อสารสองทาง และเข้าถึงผู้คนในกลุ่มต่างๆ ได้มากขึ้นแต่ก็ยังไม่ทิ้งการลงพื้นที่พบปะกับพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพโดยตรง ตอนนี้พยายามที่จะไปให้ทั่วถึงที่สุด

นายสกลธี  กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังเตรียมตัวสำหรับเวทีการปราศรัยใหญ่ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 13 พ.ค.ที่ลานคนเมือง บนเวทีตนจะเป็นผู้ปราศรัยหลักร่วมกับ ทีมงานที่ปรึกษา ตอนนี้เปิดตัวทีมทำงานไปหลายคนแล้ว ล่าสุดคือ "ทิว"จิรวัฒน์ ตั้งปณิธานนท์ นักฟิสิกส์ควอนตัม ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะมาดูเรื่องเทคโนโลยีดิจิตัลต่างๆ ซึ่งตนยินดีที่มีคนหลากหลายอายุเข้ามาร่วมกันทำงาน เพราะเป็นการเปิดกว้างให้กับคนทุกวัย และยังมี ผู้สมัคร ส.ก. ที่มีแนวความคิดเช่นเดียวกัน ไม่ได้จำกัดว่าจะเป็นพรรคใด เพราะในฐานะของผู้สมัครอิสระและถ้าได้เป็นผู้ว่าฯ คิดว่าสามารถทำงานได้กับทุกๆ คน ทุกพรรค ไม่มีเงื่อนไขทางพรรคการเมืองมาจำกัดการทำงานอยู่แล้ว ส่วนกระแสผู้ว่าคนหนุ่มที่พูดถึงกันตอนนี้ ผมก็คิดว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะงาน กทม.เป็นงานที่หนัก  เนื่องจากมันจุกจิกแล้วก็มีแบบเรื่องภาระ เรื่องอะไรหลายอย่างต้องลงไปในพื้นที่จริงๆ คิดว่าคนหนุ่มมันก็เป็นข้อได้เปรียบเพราะว่าด้วยวัยในการทำงานได้ อย่างผมเนี่ยอายุ 44 คือเป็นวัยที่กำลังลุยงานได้อย่างเต็มที่ เมืองจะคึกคักได้ ผู้นำก็ต้องคึกคักด้วย