ตร.เตรียมออกหมายเรียกเจ้าของอาวุธปืนที่ “เสก โลโซ”ใช้ยิงขึ้นฟ้ามาให้ปากคำ ระบุหากพบสารเสพติดพร้อมดำเนินคดีตามขั้นตอน
เมื่อวันที่ 3 ม.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช อนุมัติหมายจับนายเสกสรรค์ สุขพิมาย หรือ “เสก โลโซ” ร็อกเกอร์ชื่อดัง ในข้อหามีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควร และไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว รวมทั้งยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน จากกรณีที่ยิงปืนขึ้นฟ้า 10 นัด เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 29 ธ.ค. 2560 หลังเล่นคอนเสิร์ตภายในวัดเขาขุนพนม อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราชว่า ขณะนี้ทาง สภ.พรหมคีรี ได้รับตัวนายเสกสรรค์ไว้ดำเนินคดีแล้วในข้อหาตามที่ได้ออกหมายจับไว้ ส่วนที่มีข่าวลือเกี่ยวกับอาวุธปืนที่นำไปใช้ก่อเหตุอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบว่า เป็นอาวุธปืนของผู้ใด ซึ่งพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมออกหมายเรียกเจ้าของอาวุธปืนมารับทราบข้อกล่าวหาและทำการสอบสวนในเชิงลึกต่อไป
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการทางคดีต่อนายเสกสรรค์ถึงที่สุดทั้งคดีต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในท้องที่สน.คันนายาว คดีครอบครองอาวุธปืนและคดีการยิงปืนขึ้นฟ้าในที่สาธารณะ ซึ่งทาง สภ.พรหมคีรี อยู่ระหว่างดำเนินการ ส่วนคดีที่เหลือคือการติดตามเจ้าของอาวุธปืนและผู้จัดหาปืน อยู่ระหว่างการสอบสวน ขณะที่ผลการตรวจสอบหาสารเสพติดในร่างกายนายเสกสรรค์นั้นอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยจะต้องนำผลที่ได้มาประกอบสำนวนการสอบสวน โดยทางตำรวจไม่ได้หนักใจ หากพบว่ามีสารเสพติดก็ต้องตั้งข้อกล่าวหาไปตามขั้นตอน แต่หากเป็นการใช้ยาตามปกติก็ถือว่าเป็นคนละส่วนกัน
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า สำหรับกระสุนที่นายเสกสรรค์ยิงขึ้นฟ้านั้นเบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานว่าสร้างความเสียหายให้กับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน แต่หากประชาชนคิดว่าได้รับความเสียหายก็สามารถแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ได้ที่สถานีตำรวจท้องที่จ.นครศรีธรรมราช โดยได้แจ้งกับผู้บังคับการจังหวัดว่าต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด เพราะต้องการให้เป็นอุทาหรณ์กับประชาชน ที่อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือขาดสติและกระทำการดังกล่าว ทั้งนี้ การยิงปืนขึ้นฟ้าถือเป็นความผิด 3 มิติ คือ ความผิดเรื่องอาวุธปืน ความผิดเรื่องการพกอาวุธปืนและความผิดในการยิงปืน ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามลดทอนการขนอาวุธ ด้วยการตั้งด่านตรวจร่วมระหว่างทหารและตำรวจ เมื่อไม่มีการพกพาและไม่มีอาวุธปืนการยิงปืนก็จะไม่เกิดขึ้น