"จิรายุ"รุดตรวจจุดน้ำมันรั่วไม่มีอะไรน่ากังวล (มีคลิป)

2022-02-14 10:01:02

"จิรายุ"รุดตรวจจุดน้ำมันรั่วไม่มีอะไรน่ากังวล (มีคลิป)

Advertisement

"จิรายุ"พร้อม กมธ.ลงพื้นที่ตรวจจุดน้ำมันดิบรั่วซ้ำ จ.ระยอง เกิดจาก จนท.บริษัทยกท่อในจุดที่เคยเกิดเหตุครั้งแรกนำขึ้นมาตรวจสอบ แต่ประมาทไม่ดูว่ามีน้ำมันค้างอยู่ในท่อ จึงทำให้เกิดการรั่วไหลลงทะเลอีก  พบมีน้ำมันและคราบฟิล์มครอบคลุมพื้นที่ 0.5 ตารางกิโลเมตร  ไม่เคลื่อนตัว  มีเรือ เฮลิคอปเตอร์เฝ้าระวังอยู่  ไม่มีอะไรน่ากังวล ชวน นทท. แบกเป้ลุยเกาะเสม็ดได้เลย

เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ห้องประชุมเทศบาลบ้านเพ จ.ระยอง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร  พร้อมด้วย น.ส.เบญจา แสงจันทร์ กรรมาธิการ และคณะลงพื้นที่ติดตามผลกระทบกรณีน้ำมันดิบรั่วไหล ในพื้นที่ จ.ระยอง   ร่วมกับนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ  นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายธันญา เนติธรรมกุล อธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช  นายสุพจน์ ต่ออาจหาญ ปลัดจังหวัดระยอง  ผู้แทนกรมเจ้าท่า ผู้แทนการท่องเที่ยวแห่งประเทสไทย (ททท.) รวมทั้ง ภาคเอกชน และตัวแทนผู้ประกอบการท่องเที่ยว ในจ.ระยอง 


นายจิรายุ กล่าวภายหลังการประชุม ว่าอธิบดีกรมควบคุมมลพิษยืนยันว่าการรั่วครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 25 ม.ค.เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนผลการวิเคราะห์สารปรอท ในสัตว์น้ำ คุณภาพน้ำทะเล บริเวณชายหาดและแนวปะการัง  คุณภาพน้ำทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ปกติแล้ว ในส่วนหาดแม่รำพึง (คลองหัวรถ) ที่มีค่า TPH เกินเกณฑ์ในช่วงคราบน้ำมันเข้าสู่ชายหาด เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนปัจจุบันมีค่าลดลงกำลังกลับคืนสู่สภาพปกติ  ส่วนสถานการณ์ พื้นที่เกิดรั่วไหลซ้ำเมื่อวันที่ 10 ก"r" จากการสอบสวน สาเหตุเกิดจากเจ้าหน้าที่ของบริษัท ได้ยกท่อในจุดที่เคยเกิดเหตุครั้งแรกเพื่อนำขึ้นมาตรวจสอบ แต่กลับประมาทไม่ดูว่ามีน้ำมันค้างอยู่ในท่อ จึงทำให้เกิดการรั่วไหลลงทะเลอีกแต่ไม่หนาแน่นเหมือนครั้งที่ผ่านมา

จากนั้นนายจิรายุ พร้อมคณะ ได้เดินทางพร้อมอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.)ไปที่จุดเกิดเหตุครั้งที่ 2 บริเวณทะเลมาบตาพุด จ.ระยอง พบว่ามีน้ำมันและคราบฟิล์มน้ำมันครอบคลุมพื้นที่ 0.5 ตารางกิโลเมตร อยู่ห่างจากชายฝั่งหาดแม่รำพึง 7 ตารางกิโลเมตร และห่างจากชายฝั่งเกาะเสม็ด 10 ตารางกิโลเมตร ซึ่งคราบน้ำมันยังคงอยู่ตำแหน่งเดิม ไม่เคลื่อนตัวไปในทิศทางใด   เนื่องจากไม่มีกระแสลมและคลื่น และขณะนี้มีเรือเฝ้าระวังประจำการอยู่ทั้งหมด 11 ลำ เป็นเรือทุ่นกันคราบน้ำมัน 6 ลำ และเรือพ่นสารเคมี 5 ลำ นอกจากนี้ยังมีเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือบินสนับสนุนการโปรยสารเคมีอีก 1 ลำ

นายจิรายุ กล่าวต่อว่าสำหรับเหตุการณ์ทั้ง2ครั้ง จากการรับฟังรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสรุปได้ว่าสถานการณ์สามารถควบคุมได้แล้ว ส่วนการดำเนินงาน ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.)  ยังมีการติดตามการเคลื่อนที่ของน้ำมันอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันทรัพยากรธรรมชาติ และติดตามคุณภาพสิ่งแวดล้อมทางทะเลและบริเวณที่มีทรัพยากร ทางธรรมชาติ ในส่วนเรื่องการฟ้องร้องดำเนินคดี ทั้งทางแพ่ง และอาญา ทางกรมควบคุมมลพิษ(คพ.) กรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง(ทช. ) และกรมเจ้าท่า ชี้แจงว่าได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้แล้ว

นายจิรายุ กล่าวอีกว่า ส่วนการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ขอให้ จ.ระยอง พิจารณาว่าจะใช้งบประมาณส่วนใดในการเยียวยาเบื้องต้นส่วนระยะกลางและระยะยาวที่จะต้องใช้ขั้นตอนทางกฎหมายฟ้องร้องก็ขอให้เร่งแนะนำให้กับผู้ได้รับผลกระทบ และควรตั้งศูนย์ประชาสัมพันธ์ในสถานการณ์เพื่ออธิบายให้กับสังคมทราบเพราะจะมีผลกระทบอย่างมากทั้งๆที่ตนลงพื้นที่ตรวจสอบระยองยังท่องเที่ยวได้ทุกจุด ทั้งนี้ในช่วงบ่ายวันนี้ ได้เชิญตัวแทนของบริษัทเอกชนที่ทำน้ำมันรั่วไหลและผู้แทนจากกระทรวงอุตสาหกรรมเข้าประชุม เพื่อหาข้อสรุปในการชดเชยหรือเยียวยาและหาทางป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต ที่การนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ซึ่งในส่วนของการท่องเที่ยวจากที่ตนลงพื้นที่โดยรอบเกาะเสม็ดถือได้ว่าวันนี้ไม่มีอะไรน่ากังวลนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อนช่วงนี้ได้ทะเลที่ตนเห็นยังสวยงามเหมือนตอนที่ตนเป็นวัยรุ่นมาเที่ยวเกาะเสม็ดเมื่อ 20 ปีก่อน ดังนั้นขอแนะนำให้นักท่องเที่ยว สายเกาะ เตรียมตัวแบกเป้ลุยเกาะเสม็ดในช่วงซัมเมอร์นี้ได้เลย