"อนุทิน" ยันสัมพันธ์รัฐบาลยังดี ลาประชุม ครม.ไม่อยากโต้เถียง

2022-02-10 10:05:33

"อนุทิน" ยันสัมพันธ์รัฐบาลยังดี ลาประชุม ครม.ไม่อยากโต้เถียง

Advertisement

"อนุทิน" ยันสัมพันธ์รัฐบาลยังดี อ้างลาประชุม ครม. ไม่อยากโต้เถียง  ถ้ามีคำตอบดำเนินการตามกฎหมายขั้นตอนที่ชัดเจนแล้วไม่มีปัญหา

เมื่อวันที่ 10 ก.พ. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)  ให้สัมภาษณ์ผ่านทางรายการ "มุมการเมือง" ทาง ThaiPBS กรณี 7รัฐมนตรีบอยคอตเรื่องต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวไม่เข้าร่วมประชุม ครม. โดยยืนยันความสัมพันธ์ กับพรคร่วมรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่มีปัญหา สิ่งที่แสดงออกไปเป็นการพิทักษ์ผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน การทำงานยังเป็น professional ไม่เกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ เพราะการทำงานร่วมกันมีความเห็นแตกต่างกันเป็นเรื่องปกติของการทำงานเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องความสัมพันธ์ หรือขัดแย้งใดๆ ทำงานได้ตามปกติ เรื่องอื่นๆนายกรัฐมนตรียังคงสั่งงาน และได้รายงานนายกรัฐมนตรี ตามปกติ

ส่วนจุดยืนโหวตเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่ได้ขัดแย้งที่จะให้ปรับแก้สัญญารถไฟฟาสายสีเขียว แต่กระทรวงคมนาคมมีข้อกังวลที่ขอให้ปรับปรุง ชี้แจง ตามที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ  รมว.คมนาคม ทำหนังสือไป

ส่วนปฏิกิริยา งัดข้อของภูมิใจไทย จะกลายเป็นระเบิดลูกใหม่ของรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เวลาไม่ปกป้องผลประโยชน์ประชาชน ก็ถูกว่า ถูกตำหนิ หรือวิพากษ์วิจารณ์ เวลาปกป้องก็ผิดอีก ก็จะไม่ใช่การทำงาน ตนไม่ใช่พวกลากมากไป ไม่ต่างจากระบบสภา ถ้าถึงเวลาจริงๆตกลงกันไม่ได้ ความเห็นขัดแย้ง ทิศทางยังจูนกันไม่ได้ ก็จะใช้วิธีโหวต ตามระบอบประชาธิปไตย และเมื่อผลโหวตออกมาอย่างไรทุกฝ่ายก็ต้องตามนั้น

นายอนุทิน ย้ำว่าการที่รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยไม่ได้เข้าร่วมประชุม ครม. เพราะเราแจ้งนายกรัฐมนตรี ทุกครั้งว่า ถ้าประเด็นรถไฟฟ้านี้ไม่ได้คำตอบจาก กทม. เราขอสงวนสิทธิ์ เพราะเราไม่อยากโต้เถียง เพราะคนที่ลำบากใจที่สุดคือประธานในที่ประชุม ดังนั้นเมื่อทราบว่าจะมีวาระจรเรื่องนี้บรรจุเข้ามาทันที เพื่อเป็นการรักษาบรรยากาศการประชุม เราเลยถอยออกมา และก็ได้ส่งหนังสือชี้แจงไป

ส่วนที่มีการเขียนข่าวกันไปว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ ก็ต้องรับมติ  ครม. นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ที่เราจะต้องรับมติ ครม. แต่มีการทำหนังสือให้ความเห็นเป็นการสงวนสิทธิตรงนี้ไว้ และเรา 7 คนคิดว่าถ้าเรื่องนี้มีความสมบูรณ์ ก็น่าจะผ่านไปได้ และเราก็สบายใจที่สงวนสิทธิ ไม่เข้าประชุม ไม่โต้แย้ง ไม่ถกเกียง แต่ รมว.คมนาคม มีจดหมายหนังสือ แสดงเจตจำนงต์ ข้อคิดเห็นข้อสังเกต ถึง 8 ฉบับไปแล้ว เราหลีกเลี่ยงการปะทะ ไม่ต้องการโต้คารมกัน แต่หากมีการประชุม ครม. เพื่อโหวตครั้งต่อ พรรคภูมิใจไทย จะสงวนสิทธิไม่เข้าประชุมอีกหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ถ้ามีคำตอบ และดำเนินการตามกฎหมายขั้นตอนที่ชัดเจนแล้วเราไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้ายังคงเดิม ก็จะไม่ลาประชุมแล้ว เพราะถือว่าแสดงท่าทีไปแล้วว่าถ้าไม่มีการแก้ไขตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอก็จะใช้สิทธิในการพิจารณา

นายอนุทินยังชี้แจงกรณีที่ไม่ได้ร่วมประชุมเตรียมความพร้อมประชุมเอเปค ว่าเป็นคนละเรื่องกัน แต่เพราะตนติดประชุม คณะกรรมการยาแห่งชาติ ซึ่งได้เขียนโน๊ตชี้แจงนายกรัฐมนตรีแล้ว ขออย่าสังเกตท่าที และในวันพรุ่งนี้มีการประชุม ศบค.เวลา 09.00 น. ที่ตนเป็นเจ้าภาพเป็นเรื่องใหญ่ ที่เกี่ยวกับสุขภาพคน ก็จะเข้าร่วม ย้ำไม่มีปัญหาเรื่องการทำงาน เพราะทราบดีว่ามีความสำคัญอย่างไร

ส่วนภาพที่ปรากฎภาพไปร่วมประชุมรัฐสภา และประชุมสภาผู้แทนราษฎร เจอและพูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรมเผ่า ถึง 2 วันติดต่อกันนั้น เป็นการเปิดดีลอะไรกันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าว คุยกับใครไม่ได้เลยหรือ ร.อ.ธรรมนัส เข้ามาประชุมในนามพรรคใหม่ และเป็นช่วงจังหวะเวลาไป ลงคะแนนในที่ประชุม ระหว่างนั้น ทางเดินสายหลักในห้องประชุมสภามีเส้นเดียวเจอกัน จึงทักทายกันปกติ และส่วนตัวเป็นเพื่อนกับร้อยเอกธรรมนัสมา กว่า 20 ปี ถ้าเทียบก็รุ่นเดียวกัน โดย ร.อ.ธรรมนัสเป็น ตท. รุ่นที่ 25 ตนก็รุ่น 25 มีเพื่อนกลุ่มเดียวกันมากมาย จึงเป็นเรื่องปกติที่เจอกัน เป็นคนละเรื่องระหว่างการทำงานและการเมือง 

สำหรับโอกาสร่วมงานทางการเมือง กับ ร.อ.ธรรมนัสในอนาคตนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องรอดูผลการเลือกตั้ง ยอมรับทางการเมือง เวลาฟอร์มทีมรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ต้องรอผลหลังการเลือกตั้ง คิดไว้ก่อนไม่ได้ ตนเคยเห้นผู้หลักผู้ใหญ่ก่อนเลือกตั้งจับมือกันเป็นพันธมิตรกัน แต่หลังเลือกตั้งผลไม่เป็นไปตามที่ตั้งไว้ มือก็หลุด เห็นมาเยอะ จึงไม่มีความวิตกกังวล ทุกอย่างจะชัดต่อเมื่อผลการเลือกตั้งประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ อย่าไปผูกมัดอะไร

นายอนุทินยังมั่นใจทุกพรรคพร้อมสู่สนามเลือกตั้ง เช่นเดียวกับพรรคภูมิใจไทย เพราะเมื่อเข้าสู่ปีที่ 3 ทุกคนต้องคิดเรื่องการเลือกตั้ง ต้องมีการเตรียมนโยบาย เพื่อสื่อสารไปยังประชาชน และต้องเร่งผลิตนโยบายที่ทำให้ประชาชนและประเทศพลิกฟื้นได้ทุกมิติ ถ้าไม่พร้อมจะไม่มีนโยบายใดไปขายให้ประชาชน ซึ่งภูมิใจไทยทำได้ครบที่พูดไว้