ผบ.ตร.สั่ง "บิ๊กโจ๊ก" รุดเยี่ยม ตชด.บาดเจ็บเหตุลอบวางระเบิดริมทางสะพานรถไฟ อ.จะนะ จ.สงขลา พร้อมเร่งสืบสวนจับกุมผู้ก่อเหตุ
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้ากรณีชาวบ้านเหยียบกับระเบิดริมทางสะพานรถไฟ บ้านโคกม้า ต.บ้านนา อ.จะนะ จ.สงขลา และเกิดเหตุระเบิดซ้ำจนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ชุดอีโอดี ฉก.ตชด.43 ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 นาย คือ ด.ต.วิศิษฎ์ บัวศรี และ ด.ต.สรชา อนุญาโต และ พ.ต.ต.เอกยส ศิริเพ็ญ โดยผู้บาดเจ็บทั้งหมดได้ถูกส่งตัวต่อมายังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์
ทั้งนี้พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้ลงพื้นที่เข้าเยี่ยมปลอบขวัญให้กำลังใจ ตำรวจตระเวนชายแดน มว.ฉก.ตชด.4321 อ.สระบ้าย้อย จากนั้นนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินสำรวจจุดเกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้ยังคงปิดกั้นพื้นที่เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านโดยให้หลีกเลี่ยงเส้นทางบริเวณดังกล่าวก่อน จนกว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถเคลียร์พื้นที่ได้
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การลอบวางระเบิดครั้งนี้เชื่อว่าเป็นการตอบโต้จากกลุ่มผู้มีความเห็นต่างหลังจากถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญคนร้ายเสียชีวิตไป 3 ราย ทั้งนี้ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้เสียขวัญ และจะเร่งขยายผลตรวจสอบถึงสาเหตุที่ชัดเจนอีกครั้ง อย่างไรก็ตามยืนยันว่าการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ ชาวบ้านเองก็รู้สึกไม่สบายใจเพราะที่ผ่านมาการทำงานระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐและชาวบ้านมีความใกล้ชิดกันมาโดยตลอด ปราศจากเงื่อนไขและความขัดแย้งด้านศาสนา และจะเร่งสืบสวนจับกุมผู้ก่อเหตุต่อไป
นอกจากนี้ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจในสังกัด ตำรวจท่องเที่ยวหาดใหญ่ โดยกำชับแนวทางปฎิบัติว่าทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีความห่วงใยกำลังพลทุกนาย จึงได้มอบหมายให้ผู้บังคับบัญชาระดับ ตร. เดินทางมาตรวจเยี่ยมเพื่อรับทราบสภาพความเป็นอยู่และรับฟังปัญหา อุปสรรค ตลอดจนคำแนะนำในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ เพื่อนำไปเป็นข้อมูลในการขับเคลื่อนและพัฒนางานของ ตร. ต่อไป อีกทั้งตำรวจท่องเที่ยวเป็นหน่วยงานสำคัญ และมีส่วนส่งเสริมสนับสนุนยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ และส่งเสริมศักยภาพด้านการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีโลก เพราะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนั้น ก่อให้เกิดมูลค่าในทางเศรษฐกิจที่สูงมาก และประเทศไทยของเราก็อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสวยงามระดับโลก จึงมีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ดังนั้น ตำรวจท่องเที่ยวจึงมีความสำคัญในด้านการรักษาความปลอดภัยและการดูแลอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีงามของประเทศ จึงขอให้กำลังพลทุกนายระลึกถึงความสำคัญในเรื่องดังกล่าวไว้
ทั้งนี้ ก่อนออกปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้ง จะต้องตรวจตราความเรียบร้อยของเครื่องแต่งกาย เครื่องหมาย อาวุธ เครื่องมือสื่อสาร ยานพาหนะและอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานให้มีความสมบูรณ์ เพราะตำรวจท่องเที่ยวเป็นสัญลักษณ์แห่งความปลอดภัยในสายตานักท่องเที่ยว จึงมีความจำเป็นจะต้องเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีตลอดเวลา และสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว อีกทั้งเน้นย้ำให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ควบคุม อำนวยการ กำกับดูแลการปฏิบัติของกำลังพลในปกครองอย่างใกล้ชิด ตลอดจนให้เอาใจใส่ดูแลในเรื่องขวัญ กำลังใจสวัสดิการต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ หากพบว่ากำลังพลรายใดมีปัญหาความเครียดในการปฏิบัติงาน ให้ช่วยแนะนำ ให้คำปรึกษา เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้ลุล่วงไป รวมทั้งหมั่นฝึกฝนและฝึกทบทวนการใช้ยุทธวิธีตำรวจและในการปฏิบัติงานนั้น ให้รักษาความไม่ประมาทเสมอด้วยชีวิต