เลขาธิการ คปภ. ติดโควิดหลังฉีดวัคซีนเข็ม 4

2022-01-17 17:59:17

เลขาธิการ คปภ. ติดโควิดหลังฉีดวัคซีนเข็ม 4

Advertisement

เลขาธิการ คปภ. เปิดไทม์ไลน์หลังติดโควิด-19 เผยเพิ่งฉีดวัคซีนเข็ม 4 เมื่อ 7 ม.ค. เผยทำประกันภัยโควิดแบบ “เจอ จ่าย จบ” 2 ฉบับแต่ไม่ขอรับค่าสินไหมทดแทน

เมื่อวันที่ 17 ม.ค.  ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้างสำนักงาน คปภ. และทุกความห่วงใย ที่ได้ส่งกำลังใจมาให้ผมอย่างต่อเนื่อง และรู้สึกซาบซึ้งกับทุกความห่วงใยที่ทุกท่านมีให้ ซึ่งผมเพิ่งจะทราบว่าติดเชื้อ โควิด-19 ในวันนี้ จึงขอแจ้งไทม์ไลน์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาดังนี้ วันจันทร์ที่ 10 ม.ค. 2565 ประชุมที่สำนักงาน คปภ. เนื่องจากมีความจำเป็น วันอังคารที่ 11 ม.ค.2565 บันทึกเทปสัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ที่สำนักงาน คปภ. ในช่วงบ่ายประชุมออนไลน์และเดินทางไปประชุมนอกสถานที่ (สวมหน้ากากอนามัยสองชั้นตลอด) วันพุธที่ 12 ม.ค. 2565 ประชุมออนไลน์ที่สำนักงาน คปภ. (เช้า-บ่าย) (สวมหน้ากากอนามัยสองชั้นตลอด) วันพฤหัสบดีที่ 13 ม.ค.2565 ประชุมออนไลน์ (WFH) วันศุกร์ที่ 14 ม.ค.2565 ช่วงเช้าแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนบริเวณหน้าตึกศาลปกครองกลางและเข้าชี้แจงคดีที่ห้องพิจารณาคดี ศาลปกครองกลาง (สวมหน้ากากอนามัยสองชั้นตลอด ยกเว้นช่วงรับประทานอาหารกลางวันที่ห้องอาหารศาลปกครองกลาง ซึ่งแยกมาทานโต๊ะเดี่ยว) วันเสาร์ที่ 15 ม.ค. 2565 เริ่มมีอาการคล้ายๆ แพ้อากาศ คัดจมูก และมีไข้เล็กน้อย จึงตรวจ ATK (ช่วงบ่าย) ผลเป็นบวก จึงรีบไปตรวจ RT- PCR ที่โรงพยาบาล แล้วรีบกักตัวทันที และวันอาทิตย์ที่ 16 ม.ค.2565 ทราบผลตรวจว่าติดเชื้อโควิด จึงเข้ารับการรักษาและกักตัวแล้ว 

ดร.สุทธิพล ระบุอีกว่า สำหรับการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิป้องกันโควิดนั้น ได้รับการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 4 เป็น Moderna เมื่อวันศุกร์ที่ 7 ม.ค. 2565 ส่วนการรับประทานอาหารส่วนใหญ่เป็นที่บ้านหรือที่ห้องทำงาน ช่วงเวลาใน Timeline ไม่ได้ไปเดินห้าง ไม่ได้ไปซื้อของข้างนอก และไม่ได้ไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารใดๆ จึงไม่ทราบว่าติดเชื้อโควิดจากที่ใด โดยผมได้ประสานแจ้งบุคคลที่ผมใกล้ชิด ได้พบและประชุมให้ทราบ พร้อมได้รายงานผู้บังคับบัญชาแล้ว สำหรับบุคลากรของสำนักงาน คปภ. ท่านใดที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง หรือกลุ่มเฝ้าระวัง ขอให้ปฏิบัติตนตามมาตรการและแนวทางที่สำนักงาน คปภ.กำหนดไว้ โดยท่านที่มีโอกาสเสี่ยงสูงหรือมีอาการขอให้ทำการตรวจเพื่อหาเชื้อ และให้ท่านรีบไปพบแพทย์พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องตามสายงาน หรือผู้บังคับบัญชาทราบผลการตรวจทันที นอกจากนี้การจัดประชุมต่างๆ ขอให้ทำผ่านทางระบบ Online เพื่อลดความแออัดของผู้เข้าร่วมประชุม รวมถึงขอให้ทุกท่านยึดถือมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆอย่างเคร่งครัด และขอให้ทุกท่านปฏิบัติตัวและปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยของตัวท่าน เพื่อนร่วมงาน รวมไปถึงครอบครัวของท่าน โดยคุณหมอบอกว่าอาการที่ผมเป็นไม่รุนแรงเนื่องมาจากที่ผมได้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว จึงขอเชิญชวนให้ทุกท่านแม้ว่าจะไม่ประมาท ก็ควรไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อในกรณีที่ติดเชื้อ อาการจะได้ไม่รุนแรง ในโอกาสนี้ผมต้องขออภัยพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ที่ทำงาน สื่อมวลชนและบุคคลที่ผมได้พบในช่วง 2-5 วันที่ผ่านมาอย่างสุดซึ้ง ที่ทำให้ท่านอยู่ในกลุ่มเสี่ยง เพราะแม้ผมจะใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง แต่ก็อาจไปเจอกลุ่มเสี่ยงโดยที่ผมไม่ทราบ ทำให้ติดเชื้อโควิด โดยไม่รู้ตัว

“ส่วนการดำเนินการกรณีบริษัทประกันภัยฟ้องให้ยกเลิกคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 ในคดีที่ศาลปกครองกลาง และบริษัทดังกล่าวยังมีหนังสือเรียกค่าทดแทนจากผมหลายพันล้านบาท อย่างไม่เป็นธรรมทั้งๆ ที่ศาลปกครองกลางยังไม่ได้มีคำพิพากษาว่าคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่อย่างใด แม้ผมจะป่วย แต่ผมจะสู้ไม่ถอยเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคด้านประกันภัยอย่างเต็มที่ โดยจะทำงานผ่านระบบออนไลน์เพื่อไม่ให้งานตรงนี้ได้รับผลกระทบครับ”ดร.สุทธิพล กล่าว 

ดร. สุทธิพล กล่าวด้วยว่า ตามที่ได้มีการแจ้งข่าวการติดโควิดของตนออกไปแล้วนั้น ปรากฏว่า มีสื่อมวลชนให้ความสนใจและสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมากว่า ตนได้ทำประกันภัยโควิดไว้หรือไม่ จึงขอชี้แจงว่าได้ทำประกันภัยดังกล่าวไว้ โดยภรรยาตนซื้อประกันภัยโควิดแบบเจอ จ่าย จบ ไว้กับบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ให้ตนทางออนไลน์ เพราะซื้อได้ง่าย และสะดวก โดยซื้อตั้งแต่ปี 2563 แล้ว เหตุที่ภรรยาซื้อจากสองบริษัทนี้เพราะปกติได้ทำประกันภัยรถยนต์กับบริษัทนี้อยู่แล้ว ต่อมาเมื่อครบกำหนด บริษัทก็ส่งข้อความมาเตือนว่าจะต่อประกันภัยหรือไม่ ภรรยาของตนได้ต่อประกันภัยไป โดยขณะที่ทำประกันภัย ตนคิดว่าคงไม่ติดโควิดเพราะระมัดระวังตัวเป็นอย่างดี แต่ซื้อประกันภัยไว้เพื่อบริหารความเสี่ยง ตอนซื้อภรรยาผมไม่ทราบว่ามีข้อความให้บริษัทบอกเลิกสัญญาได้ ซึ่งคนทั่วไป ผมเชื่อว่าก็คงไม่ทราบเช่นกัน ภรรยาเอากรมธรรม์ประกันภัยที่บริษัทส่งมาให้ทางออนไลน์ให้ผมดูภายหลัง ปรากฏว่าข้อความที่เป็นเงื่อนไข ของกรมธรรม์ประกันภัยนั้นมีครับ แต่ถ้าอยากทราบต้องคลิกเข้าไปอ่าน ซึ่งคนส่วนใหญ่จะไม่คลิกเข้าไปดูครับ เนื่องจากการใช้สิทธิเคลมประกันภัยเป็นสิทธิส่วนตัวของผม ผมพิจารณาด้วยความรอบคอบแล้ว ขอประกาศให้ทราบทั่วกันถึงการยืนยันของผมว่า ผมจะไม่เคลมประกันภัยโควิดแบบเจอ จ่าย จบ ที่ภรรยาผมซื้อให้จากสองบริษัทดังกล่าว ด้วยเหตุผลดังนี้

1. เวลานี้ผมยังมีสวัสดิการและเงินเดือนพอที่จะดูแลค่ารักษาพยาบาลได้ เพื่อบริษัทประกันภัยจะได้เอาเงินประกันภัยเจอ จ่าย จบ ไปจ่ายให้ผู้เอาประกันภัยคนอื่นที่เขาเดือดร้อน

2. เพื่อแสดงถึงความบริสุทธิ์ใจของผม และไม่ให้เกิดประเด็นที่อาจจะไปอ้างว่าที่ผมต่อสู้เรื่องไม่ให้เลิกประกันภัยเจอ จ่าย จบ เพราะผมต้องการจะป่วยเป็นโควิด แล้วเคลมประกันภัยเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริงเลย จะได้เป็นการยืนยันด้วยว่าที่ผมต่อสู้อยู่ในขณะนี้เป็นการต่อสู้เพื่อผู้เอาประกันภัยที่เขาเดือดร้อน และเพื่อไม่ให้ความเชื่อมั่นของระบบประกันภัยไทยถูกทำลาย

ส่วนเรื่องเชิญ 14 บริษัทประกันภัยมาหารือเพื่อยืนยันการคุ้มครองและหาทางออกร่วมกันจะเดินหน้าต่อไป ไม่เลื่อนออกไปอย่างแน่นอน เพราะได้มอบหมายทีมงานไว้แล้ว จึงขอให้มั่นใจว่า สำนักงาน คปภ. จะทำหน้าที่ของหน่วยงานกำกับฯอย่างดีที่สุดเพื่อให้เป็นที่พึ่งด้านประกันภัยของประชาชนได้อย่างแท้จริง