“แอนด์ดรูว์ โคนินทร์” เปิดใจในรอบ 10 ปี ประกาศความบริสุทธิ์ หลังโดนปรักปรำยุ่งเกี่ยวยาเสพติด !
ตัวร้ายหน้าหล่อ "แอนด์ดรูว์ โคนินทร์" เปิดใจครั้งแรกในรอบ 10 ปี ขอความเป็นธรรม หลังเจอมรสุมลูกใหญ่ โดนปรักปรำเกี่ยวข้องกับยาเสพติด พร้อมประกาศผมคือผู้บริสุทธิ์ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow
เราย้ายจากช่องน้อยสีไปช่องมากสี ?
แอนด์ดรูว์ : มันไม่ได้มีเหตุผลอะไรเลย แล้วก็ตอนนั้นไม่ได้รู้สึกว่าอยากจะย้ายด้วย เพียงแต่ว่านักแสดงทุกคนพอมันถึงจุดนึงมันก็รู้สึกว่าอยากโต คราวนี้ก็มีรู้จักผู้ใหญ่อยู่บ้าง เลยรู้สึกว่าเราอยากเล่นอะไรที่มันท้าทายมากกว่านี้ ผมรู้จักกับผู้ใหญ่ช่องมากสี เลยได้ถูกเชิญไป ก็รู้สึกว่าเราลองไปท่องยุทธภพดูบ้าง หาอะไรใหม่ๆ แล้วตรงกับโจทย์ที่ผมต้องการ จริงๆ ผมอยากเล่นร้าย
ตอนเราอยู่ที่เดิมเราเคยขอไหม เราอยากเล่นร้าย ?
แอนด์ดรูว์ : ด้วยความตั้งใจของทางผู้ใหญ่ เขาก็พยายามให้เราจะเป็นพระเอกให้ได้ จริงๆ ไม่ใช่ไม่อยากเป็นนะครับ นักแสดงมันต้องเล่นได้ทุกบทบาท แต่รู้สึกว่าอยากเล่นอะไรที่มันท้าทายกว่านี้เท่านั้นเอง แต่เราไม่ได้รับบทนั้นก็เลยขออนุญาตแล้วกัน
แต่ตอนช่วงย้ายก็มีเรื่องเลย?
แอนด์ดรูว์ : ใช่ครับ จริงๆ คนเขามุ่งประเด็นไปอย่างนั้น แต่มันไม่ได้เกี่ยวกับการย้ายช่องเลย มันมีเหตุการณ์นึงที่ทำให้ผมจะต้องโดนจับในเรื่องของยาเสพติด วันนั้นเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นไป มีการโทรกัน คุยกันหลายเรื่องราว ผมไม่ลงรายละเอียดแล้วกัน คือจะเอาให้ได้แหละ
เรื่องนี้เกิดขึ้นมากี่ปีแล้ว?
แอนด์ดรูว์ : ตอนผมอายุ 25 ครับ เบญจเพสพอดี ตอนนี้ 37 ปีครับ ก็เกิดขึ้นประมาณ 12 ปีแล้วครับ
เรื่องนี้เหมือนกับว่ามันเป็นตราบาปของเรามาตลอดไหม?
แอนด์ดรูว์ : จริงๆ ด้วยหน้าผม คนเชื่อไปแล้วครึ่งทาง ด้วยบุคลิกที่เป็น ด้วยเป็นเด็กพัทยา ลุคผมอาจจะดูมาเฟียหน่อยๆ ดูไม่ใช่เด็กดี แล้ว 1.ผมไม่ชอบอธิบายด้วย เพราะฉะนั้นมันเป็นตราบาปในโซเชียล มันเป็นตราบาปในสังคม แต่ในชีวิตผม รวมไปถึงคนรอบๆ ตัว เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ได้รู้จักผม ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่ตราบาปเลย
อยากรู้ว่าที่เกิดขึ้นมันเป็นการกลั่นแกล้งกันหรือยังไง?
แอนด์ดรูว์ : ใช้คำว่ากลั่นแกล้งก็แล้วกันครับ ผมบอกเลยว่าผมไม่ใช่คนดี แต่วันที่คุณทำผมมันไม่ใช่ ผมใช้คำนี้
วันนั้นตำรวจบุกเข้ามาจับ แล้วบอกว่าเรามียาเสพติดในครอบครอง?
แอนด์ดรูว์ : ตอนนั้นช็อก เขาทำเหมือนผมเป็นหมู เป็นหมา ตอนนั้นอยู่ที่ห้องเพื่อน โดนเรียกไป คือเพื่อนชวนไปหา เราก็ไปไม่ทันถึง 5 นาที มันก็เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเลย
ตอนนั้นรู้สึกยังไง?
แอนด์ดรูว์ : ยอมรับว่าตกใจ เฟล อะไรกัน ผมยังถามเขาอยู่ว่ามันคืออะไรเหรอพี่
แล้วเขาก็บอกว่าคุณมียาเสพติดไว้ในครอบครอง อย่างนี้เลยเหรอ ?
แอนด์ดรูว์ : ใช่
โดนล็อกตัวไปเลย ?
แอนด์ดรูว์ : ใช่ๆ ตอนนั้นยังไม่มีการฝากขัง แต่มีการพูดคุยกัน คือผมเฉยๆ แล้ว ผมรู้ตัวเองว่ามันคืออะไร คือถ้าเรารู้สึกว่าเราไม่ได้ผิดเราจะแพนิกทำไม ที่ผมพูดถึงไม่ได้มีเรื่องเงิน เรื่องอะไรนะครับ ไม่ได้มาบอกว่าพี่อย่าปล่อยข่าวผมเลยนะครับ ผมจะเอาเงินยัด ผมไม่ได้เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว
ตอนนั้นเครียดไหม?
แอนด์ดรูว์ : ยอมรับว่าเครียด ผมติดต่อใครไม่ได้ แล้วตัวคนเดียวด้วยก็กลัว ผมก็รู้สึกอะไรวะ
ในข่าวมันมีฝากขังด้วยเหรอ ?
แอนด์ดรูว์ : จริงๆ ไม่มี ผมเป็นแค่ผู้ต้องสงสัย เพราะว่าทั้งหมดที่มันเกิดขึ้นผมไม่ได้ยอมรับ มันก็เป็นแค่การจับกุมทั่วไป
พอข่าวออกมา เรามีปัญหากับทางช่องไหม ?
แอนด์ดรูว์ : ตอนนั้นต้องขอบคุณผู้ใหญ่ทางช่อง7 เขาค่อยข้างกรุณา จริงๆ ก็มีผู้ใหญ่ท่านนึง แต่สำหรับท่านเป็นผู้ใหญ่ที่ค่อนข้างจะโหดมากกับเรื่องราวพวกนี้ ผมรู้สึกขอบคุณท่าน แล้วก็ดีใจขึ้นมาตรงที่ท่านบอกว่า เอาอย่างนี้นะไม่ได้ถอนสัญญา ไปเคลียร์ตัวเองมาประมาณนั้น
ตอนนั้นอะไรที่ทำให้ผู้ใหญ่เขาเชื่อใจเรา ?
แอนด์ดรูว์ : น่าจะเป็นคำพูดมั้งครับ เพราะผมไม่ค่อยพูด แล้วคอนเฟิร์มกับใครง่ายๆ ผมบอกว่าผมขอเวลาหน่อยได้ไหม พูดแล้วก็ขอร้อง แล้วผู้ใหญก็ให้ ทั้งหมด 1 ปี 7 เดือน กับ 11 วันครับ
ทำไมตัวเลขนี้มันฝังอยู่ในสมองเราตลอดเวลา ?
แอนด์ดูรูว์ : คือมันเป็นเวลาของการใช้ชีวิตระหว่างนั้น ตอนนั้นยอมรับว่าดึกมาประมาณเกือบ 3 เดือน ผมรู้สึกว่าผมเป็นตัวถ่วงของละครละ ก็เลยโทรไปหาผู้ใหญ่ ว่า ขออนุญาตเบรกละครเรื่องนี้ ผมเข้าใจครับ มันเกือบ 30% แล้วเขารอได้ แต่เรารู้สึกแย่เอง
มีข่าวว่าช่องแบนเรา ?
แอนด์ดรูว์ : ช่องไม่ได้แบนครับ ทางช่องบอกว่าให้ไปเคลียร์ตัวเองมาให้จบนะ ถ้าจบแล้วคุณก็กลับมาถ่ายต่อ แต่ผมยอมรับว่างอแง ถอดผมไปเถอะครับ แล้วปัญหาคือเขาต้องถ่ายใหม่ แล้วต้องหาตัวแสดงใหม่ด้วย ผมเข้าใจเขา แต่ผมเป็นคนที่เล่นละครแล้วแบบอินเนอร์แรง ผมจะต้องมีฟิวส์ แค่ทะเลาะกับแฟนวันนั้นแล้วต้องไปถ่ายละคร มันก็แย่เลย มันจะเตลิดไปเลย
ตอนนั้นแสดงว่าความรู้สึกข้างในมันเฟลมาก ?
แอนด์ดรูว์ : มันเฟลแล้วครับ เรารู้สึกว่าขออยู่กับตัวเองถอยกลับมาอยู่กับครอบครัว อยู่กับเพื่อนที่เขารู้จักเราจริงๆ ดีกว่า
มีผลกระทบกับครอบครัวยังไงบ้าง ?
แอนด์ดรูว์ : อันนี้มันแล้วแต่วิจารณญาณนะครับ อันนี้ผมงงเขามาก ปกติคุณแม่ผมเป็นคนที่ไม่เคยให้ท้ายลูกเลย ปกติถ้าไปโรงเรียน มีปัญหาอะไรที่โรงเรียน ผมจะโดนตีโชว์เพื่อนก่อน แล้วค่อยมาโดนตีต่อที่บ้าน แต่ครั้งนี้ไม่เป็นไรนะลูก แม่เชื่อมั่นในตัวหนู สู้แล้วกัน ผมก็เลยแบบ ทำไมรอบนี้แม่มาแปลก คือมันเป็นช่วงเบญจเพสพอดีด้วย แล้วแม่ผมก็มูพอสมควร เขาก็เลยไปดูว่าแบบถ้าไม่โดนเรื่องนี้ก็อาจจะมีเรื่องถึงชีวิต เขามองเป็นว่าติดคุกเถอะลูกเอ้ยกับชีวิตลูกที่ต้องเสียไป ผมเลยบอกว่าแม่มันไม่สนุก ก็ยังบอกเขาอยู่ แต่ก็ยังยิ้มได้
เอาผลเลือดไปโชว์ผู้ใหญ่เลยเหรอ ?
แอนด์ดรูว์ : คือช่วงเวลามันน้อย จริงๆ สื่อก็น่าจะเก็ตนิดนึง คือจับผมเข้าไปตรวจปัสสาวะ มันยังไม่ถึงกี่นาทีเลย เดินออกมาให้ข่าวกับสื่อว่าม่วง ผมบอกเดี๋ยวๆ ยังสะบัดไม่เสร็จเลย ม่วงแล้วเหรอ ตอนนั้นพูดด้วยอารมณ์ แล้วพอเสร็จจากตรงนั้น ผมก็ไปที่โรงพยาบาล ผมเลยไปตรวจเลือด เพราะผลเลือดมันไม่ใช่แค่ปัสสาวะ มันย้อนหลังไป 3 เดือนเลย แล้วผลเลือดออกมาไม่มีสาร
ได้เอาผลไปให้สื่อดูไหม ?
แอนด์ดรูว์ : ผมไม่ได้ยื่นให้สื่อครับ
แต่ตอนเกิดเรื่องทุกสื่อ ทุกฉบับหน้า1 หมดเลยว่าเราทำความผิด ?
แอนด์ดรูว์ : ครับ นึกว่างานกฐิน
ตอนตรวจเลือดแล้วเราไม่อยากให้ทุกคนเห็นเหรอว่าเราไม่ได้ผิด ?
แอนด์ดรูว์ : จริงๆ ผมเป็นคนไม่ชนะต่อหน้าสื่อ ไม่รู้จะเอามาโชว์ทำไม
สื่อเขาทำชื่อเราเสียได้ แล้วเขาก็สามารถแก้ให้เราได้ ?
แอนด์ดรูว์ : ใจผมกลับไปคิดถึงวันสุดท้ายมากกว่า ไม่ได้รู้สึกแบบว่า พี่ครับ พี่ช่วยผมหน่อย อันนี้ผมไม่ได้ทำนะครับ ผมรออย่างที่ผมบอก ทำไมผมถึงจำได้ 1 ปี 7 เดือน 11 วัน ผมรอวันนี้แหละ
มีโดนสื่อด่าต่อหน้าด้วย ?
แอนด์ดรูว์ : ก็มีครับ ถามว่าเข้าใจไหม เข้าใจ แต่โกรธไหม โกรธ เหมือนอารมณ์เขาจะไปทำข่าว แต่ไม่ได้ข่าว ก็มีอารมณ์เสียนิดหน่อย ผมไม่ได้หันไปตอบเขา ไม่ได้สนใจ ไม่ได้ให้เขาสัมภาษณ์ เขาก็หันมาเรียกไอ้เตี้ย แต่เปลี่ยนตัวอักษร คือวันนั้นทุกอย่างมันถาโถมเข้ามา มันคือน้อยใจมาก
คนที่ด่าเราจำหน้าได้ไหม ?
แอนด์ดรูว์ : จำหน้าได้ ผมเข้าใจเขาจุดนึงนะ ก็อยากจะบอกพี่ พูดดีๆ กับผมก็ได้ จริงๆ ไม่ใช่แค่กับผมคนเดียวนะ แต่อย่าไปทำอย่างนี้กับคนอื่นเขา เพียงแค่เพราะงาน เพราะสิ่งที่ตัวเองต้องการ มันไม่ได้
หลังจาก 1 ปี 7 เดือน 11 วัน ศาลก็ยกฟ้องทั้งหมด ?
แอนด์ดรูว์ : ทั้งหมดครับ ถามว่าเคยมีจุดไหนที่ท้อไหม คงเป็นจุดที่ต้องไปศาลนี่แหละครับ ผมไม่ชอบไปศาล ซึ่งเราไปแค่ครั้งเดียว แต่มันจะมีให้รายงานตัวที่ศาล ทีนี้สื่อก็โมโหผมอีกว่าแอนดรูว์หนีศาล VIP เหรอ มีลงข่าวนิดนึง
แอนดรูว์เพื่อนที่เราไปหาโดนด้วยไหม ?
แอนด์ดรูว์ : ไม่โดนเลย โดนคนเดียว ไม่เรียกมาด้วย ก็งงมาก มันแปลกมาก ทุกวันนี้ไม่คบเพื่อนคนนี้แล้ว
สุดท้ายศาลยกฟ้อง ตอนนั้นสื่อมารอหน้าศาล เตรียมทำข่าวเราไหม ?
แอนด์ดรูว์ : ขอบคุณช่องเดียวเท่านั้น 1 กล้องเพียวๆ ผมอุส่าห์ตัดสูทใหม่
ซึ่งมันน่าจะเป็นข่าวใหญ่ ทำไมสื่อไม่ทำ ?
แอนด์ดรูว์ : วันที่โดนคือหน้า1 วันที่ชนะคดีไปอยู่หน้า 48 หาอยู่ๆ อยากได้ อยากเก็บไว้เป็นที่ระลึก
เคืองไหม เรารู้สึกยังไงบ้าง พอมันเป็นแบบนี้ ?
แอนด์ดรูว์ : ผมเป็นคนที่ชอบปลงครับ เป็นคนเข้าใจโลก เข้าใจวงการ เราเข้าใจสื่อ แล้วเรายิ่งเป็นตัวร้ายด้วย เราเข้าใจไม่ได้ว่าพี่ๆ สื่อนะ แต่เราเข้าใจโลก ผมเป็นคนไม่ชอบเอาหน้าอยู่แล้ว ผมใช้คำว่าผมเป็นนักแสดง ผมไม่ใช่ดารา อาชีพของผมคือนักแสดง อีเวนต์ผมไปน้อยมาก ต้องสำคัญจริงๆ
วันนี้ทุกอย่างเคลียร์หมดแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคาใจแอนด์ดรูว์อยู่คือความสัมพันธ์กับสื่อ อยากจะบอกอะไรกับเขา ?
แอนด์ดรูว์ : จริงๆ ไม่ได้อยากบอกว่าน้อยใจหรืออะไรนะครับ เพียงแต่อยากจะบอกว่า ต่อจากนี้เป็นต้นไป ผมไม่พูดถึงอดีต แนะนำว่าคนล้มอย่าข้าม ในเรื่องของสื่อบางอย่าง คำพูดของสื่อที่สื่อเขียน เอาตรงๆ คุณสามารถทำให้คนคนนึงเขาไม่มีที่เดินในสังคม หรือว่าคุณสามารถฆ่าคนคนนั้นได้ บางทีถ้าคนเขาจิตไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ บางทีอยากให้สื่อมองอะไรที่มันกว้างๆ กว่านี้
แล้วกับการที่สังคมตัดสินคนด้วยข่าวอันนี้เราอยากจะบอกอะไรไหม ?
แอนด์ดรูว์ : นี่แหละมันเป็นยุคแห่งโซเชียล เดี๋ยวนี้มันฆ่ากันง่ายเหลือเกิน ผมใช้คำว่าทัวร์ลง ทุกวันนี้ไม่กล้าลงไอจีด้วย ผมเป็นคนที่ฮาๆ ชอบพูด ชอบแซวอะไรที่มันแรงๆ อย่างนี้ แต่หลังจากที่มีทัวร์ลงไปล่าสุดก็ค่อนข้างเฟดตัวเองมาพอสมควรว่าเริ่มไม่สนุกแล้ว ก็เลยมาเริ่มระวังตัวมากขึ้นในการลงโซเชียล
มีวิธีจัดการกับเกรียนคีย์บอร์ดด้วย ?
แอนด์ดรูว์ : ผมเป็นคนลบเก่งมาก ลบคอมเมนต์ ไม่ให้ค่าเลย แล้วไม่ต้องห่วงนะครับไม่เจอกันที่ศาล ไม่ฟ้อง ไม่มีนโยบาย
ทำไมล่ะ พอเวลามีเรื่องเสียเงิน คนจะกลัว ?
แอนด์ดรูว์ : มีเยอะครับ ผมเห็นมาเจอกันก็คำพูดเดิมๆ พี่ขอโทษ วันนั้นพี่มีอารมณ์เยอะไปหน่อย วันนี้เรารู้จักกันแล้วนะ เป็นเพื่อนกันเนอะ พี่น้องกัน คือเหมือนเขาไม่มีตัวตน โซเชียลเป็นเหมือนใครสักคนที่เหมือนฮิสทีเรีย ที่ไม่ใช่โรคผู้หญิงร่านผู้ชาย ฮิสทีเรีย คือโรคที่เรียกร้องความสนใจ เพราะฉะนั้นคนจำพวกนี้เขาจะเรียกร้องความสนใจจากสังคมที่ไม่มีใครสนใจเขา เขามาหาจุดสนใจ
ตลอดเวลาที่ผ่านมามันมีอะไรที่ให้เราเรียนรู้จากเหตุการณ์นี้ไหม ?
แอนด์ดรูว์ : มันทำให้เราเรียนรู้โลก มันทำให้ผมปลงได้ ทำให้ผมรู้จักคำว่าช่างมัน ผมเป็นคนที่ชอบอยู่คนเดียว ผมติสท์แตกมาก ไม่ชอบคนเยอะๆ มีอะไรก็จะเก็บไว้คนเดียว ในชีวิตผม เพื่อนรอบข้าง จะมีแต่ความสุขเท่านั้น ช่วงไหนไม่มีเงินจะเงียบเอง แต่ถ้าช่วงไหนมีก็จะถามว่าอยู่ไหนกัน กินนั่น กินนี่กันไหม
คลิปสัมภาษณ์ แอนด์ดรูว์ โคนินทร์