"ศุภชัย"เรียกร้องกระบวนการยุติธรรมทำความเข้าใจ ก.ม.ยาเสพติดใหม่

2022-01-12 16:30:32

"ศุภชัย"เรียกร้องกระบวนการยุติธรรมทำความเข้าใจ ก.ม.ยาเสพติดใหม่

Advertisement

"ศุภชัย"ย้ำกัญชาไม่ใช่ยาเสพติด เรียกร้องกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบทำความเข้าใจ ก.ม.ยาเสพติดใหม่ บังคับใช้ตั้งแต่ 9 ธ.ค. 64 

จากกรณีของนายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (รองเลขาธิการ ป.ป.ส.) ในฐานะโฆษก สำนักงาน ป.ป.ส. แถลงว่ากฎหมายกัญชา แก้แล้วก็จริง กัญชาสามารถที่จะปลูกได้แล้วก็จริง แต่มีเงื่อนไขว่าการปลูกกัญชา จะต้องได้รับอนุญาตก่อน ถ้าไม่ได้ขออนุญาตถือว่าผิดกฎหมาย เพราะว่ากัญชาก็คือยาเสพติดประเภท 5 แม้ว่าจะมีการปลดล็อกแล้ว

เมื่อวันที่ 12 ม.ค. นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ให้สัมภาษณ์ชี้แจงถึงประเด็นดราม่ากัญชาของพรรคภูมิใจไทย – ป.ป.ส. ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย inside Thailand ว่า จากเดิมประเทศไทยมีกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดคือพ.ร.บ.ยาเสพติดปี 2522 ในมาตรา 7 ประเภท 5 ระบุไว้ว่า กัญชาเป็นยาเสพติดประเภท 5 ใช้มาตั้งแต่ปี 2522 จนกระทั่งรัฐสภาชุดปัจจุบัน คือส.ส. และ ส.ว. ได้ร่วมกันพิจารณากฎหมาย อีกฉบับหนึ่ง กฎหมายหลักคือประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งตนเองเป็นรองกรรมาธิการฯ และร่าง ประมวลกฎหมายยาเสพติดนี้ มาตรา 29 บอกว่า ประเภท 1 คืออะไร ประเภท 2 คืออะไร จนถึงประเภท 5 คืออะไร ตามประมวลปี 64 ซึ่งมีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2564 หลักสำคัญคือ ยกเลิกกฎหมายเก่า ของปี 2522 พอเริ่มใหม่ ไม่มีกัญชาแล้ว ที่ไม่มีกัญชาเพราะว่าเป็นเจตนารมณ์ของรัฐบาลชุดนี้ โดยนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แถลงนโยบายกับรัฐสภาว่า จะสนับสนุนกัญชา

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ก็สนับสนุนให้นำกัญชามาใช้ประโยชน์ ทางการแพทย์ ขยายจนเป็นอาหาร จนกระทั่งในที่สุดกฎหมายก็ออกมา และประเภท 5 ก็ไม่ได้ใส่คำว่ากัญชาไว้ ถ้าเจตนารมณ์ต้องการให้มีกัญชา ก็ต้องเสนอร่างมาตั้งแต่แรก ว่าให้มีกัญชา และถ้าสมาชิกรัฐสภา ถ้าต้องการให้มีกัญชาท่านก็ต้องแปรญัตติใส่กัญชาเข้าไป หรือ ถ้ากรรมาธิการประสงค์ให้มีกัญชาก็ต้อง สงวนความเห็นขอใส่กัญชาเข้าไป แต่ขณะนี้ไม่มีกัญชา เพราะเราได้คิดตรงกันว่า กัญชาจะถูกปล่อยให้เป็นประโยชน์และไม่เป็นยาเสพติดอีกต่อไปสำหรับ ที่ ป.ป.ส. ได้ตีความว่า พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด คือประมวลใหม่นี้ มาตรา 8 บอกว่าประกาศอะไรที่ยังไม่ถูกยกเลิก ก็ให้ใช้ได้ต่อไป แต่พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดมาตรา 8 นี้ ระบุไว้ ประกาศที่ใช้ได้ ต้องไม่ขัดหรือแย้งกับประมวล ถ้าถามผม ก็คือประเภท 5 ไม่มีกัญชาแล้ว แล้วอยู่ๆ ทาง ป.ป.ส.บอกว่าใครปลูกกัญชาต้องขออนุญาต ผมจึงบอกว่า มันก็ขัดหรือแย้งกับประมวลใหม่ นี่คือการตีความ และเมื่อถามนักกฎหมายทั่วไปก็เห็นตรงกับผม นี่คือเจตนารมณ์ของกฎหมาย ซึ่งกฎหมายอาญาจะต้องตีความอย่างเคร่งครัด

ส่วนที่ทางป.ป.ส.ระบุว่า กลุ่ม หรือบุคคลที่สามารถปลูกกัญชาได้นั้นมีอยู่แค่ 4 กลุ่มเท่านั้น คือหน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์สถาบันอุดมศึกษาที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัย และผู้ประกอบอาชีพอิสระ อย่างเกษตรกรรมที่รวมตัวรวมกลุ่มกันเป็นวิสาหกิจชุมชน บุคคล 4 กลุ่มนี้สามารถที่จะปลูกกัญชาได้เท่านั้น นายศุภชัย กล่าวว่า จริงๆ ป.ป.ส. อ้างตามกฎหมายเก่า และอ้างแบบไม่ทันสมัย หลังจากนั้น รมว.สาธารณสุขได้ออกประกาศขยายเป็น 7 กลุ่มแล้วไม่ใช่ 4 กลุ่มอย่างที่ทาง ป.ป.ส.กล่าวอ้าง และขอย้ำว่าปัจจุบันกฎหมายเก่าได้ถูกยกเลิกไปแล้ว หลักการสำคัญวันนี้คือ ไม่มีอยู่ตรงส่วนไหนของประมวลกฎหมายยาเสพติดไว้เลยว่า “กัญชาเป็นยาเสพติด”

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังได้มีการติดตามข้อมูลว่าหลังวันที่ 9 ธ.ค.2564 เป็นต้นมา ซึ่งประมวลกฎหมายยาเสพติดมีผลบังคับใช้แล้ว แต่มีคดีที่ชาวบ้านถูกจับ และฟ้องคดี จำเลยรับสารภาพ ศาลก็ลงโทษ แต่เท่าที่ตรวจดูปรากฏว่า ศาลได้ฟ้องตามกฎหมายเดิม ซึ่งกฎหมายนั้นได้ถูกยกเลิกไปแล้ว นี่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ในกระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้กลับไปย้อนดูคดีหลังวันที่ 9 ธ.ค.2564 ว่ามีการถูกฟ้องหรือว่าพิพากษาคดีตามพ.ร.บ.ยาเสพติด ที่ถูกยกเลิกหรือไม่ ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีผู้ที่เป็นอัมพฤกษ์ได้ติดต่อมา โดยบอกว่าได้ปลูกกัญชาไว้ 1 ต้นเพื่อที่จะนำมารักษาตนเอง แต่ปรากฏว่าตำรวจไปจับและนำตัวไปโรงพัก และได้ประกันตัวที่ชั้นโรงพักแล้ว เขาได้โทรมาปรึกษาตามที่ประกาศไว้ เห็นได้ว่า นี่คือกรณีที่ปลูกกัญชาเพื่อที่จะรักษาตนเอง และนี่คือสิ่งที่กำลังวิกฤต และวันนี้ ส.ส.ภูมิใจไทย จะร่วมกันออกมายืนเพื่อที่จะดูแลและปกป้องประชาชน