"หมอธีระ"เตือนไม่ติดโควิดย่อมดีกว่าอย่าคลั่งไปหาเชื้อเข้าตัว

2022-01-04 18:19:30

"หมอธีระ"เตือนไม่ติดโควิดย่อมดีกว่าอย่าคลั่งไปหาเชื้อเข้าตัว

Advertisement

"หมอธีระ"ระบุยังไม่รู้"โอมิครอน" ทำให้เกิด Long COVID มากน้อยเพียงใด ดังนั้นไม่ติดย่อมดีกว่า อย่าคลั่งไปหาเชื้อเข้าตัว

เมื่อวันที่ 4 ม.ค. รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความทางเพจ  Thira Woratanarat ระบุว่า  อัพเดต Omicron  ระลอกนี้ทำลายสถิติทุกระลอกที่ผ่านมา จำนวนผู้ติดเชื้อทะลุล้านคนต่อวันอยู่เรื่อยๆ ตั้งแต่ช่วงคริสตมาสเป็นต้นมา Omicron แพร่ระบาดไปแล้ว 132 ประเทศ โดยมี 17 ประเทศที่รายงานมากกว่า 1,000 ราย ทั้งนี้ ไทยเป็นหนึ่งในนั้น และมีเคสสะสมตอนนี้อันดับ 15 ของโลก ดังที่เคยประเมินไว้ว่าเราจะเห็นการระบาดใหม่หลังเข็นนโยบายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่ 1 พ.ย. 2564 ราว 6-8 สัปดาห์ถัดจากนี้ คาดว่าจะเข้าสู่ช่วงติดเชื้อแบบอัตราเร่ง หรือ acceleration phase ตั้งแต่หลังกลาง ม.ค. จะไปพีคแรกราว 3 ก.พ.หากไม่สามารถบริหารนโยบายและมาตรการควบคุมป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอต่อสถานการณ์

ความน่าห่วงของเราคือ หลายประเทศทั่วโลกจะมีอัตราการติดเชื้อสูงลิ่วอย่างรวดเร็วแบบใกล้เคียงเส้นตั้งฉาก (nearly vertical) จะทำให้มีคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากและจะเกินกำลังของระบบสุขภาพที่จะรองรับ แม้จำนวนป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิตจะไม่มาก แต่คงเป็นภาพที่ทุกประเทศไม่พึงปรารถนาที่จะให้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนสำคัญคือ ศักยภาพของระบบตรวจคัดกรองโรค ที่ประชาชนจะเข้าถึงบริการได้จำกัด จะทำให้โอกาสตรวจได้ครอบคลุมครบถ้วนทันเวลาอาจเป็นไปได้ยาก ทำให้คนรู้สถานะการติดเชื้อได้ช้าหรือไม่รู้ และจะระบาดไปอย่างต่อเนื่องทั้งในระดับครัวเรือน ที่ทำงาน และชุมชน ยิ่งข้อมูลวิชาการชี้ให้เห็นชัดเจนว่า household secondary attack rate หรืออัตราการแพร่เชื้อติดเชื้อในครัวเรือนของ Omicron นั้นสูงกว่าเดลต้าพอสมควร (31% vs 21%) โอกาสที่คุมได้ย่อมลำบากหากระบบตรวจคัดกรองไม่เพียงพอ

สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือ ขอเรียนย้ำเตือนพวกเราให้เน้นดูแลตนเองและสมาชิกในครอบครัวให้ดี ใส่หน้ากากเสมอ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า อยู่ห่างคนอื่นเกินหนึ่งเมตรเสมอ เลี่ยงที่แออัด เลี่ยงการพบปะกัน ทำงานทางไกล แบ่งทีมให้ดี คอยสังเกตอาการตนเองและสมาชิกในครอบครัว ถามกันเสมอทั้งเช้าและเย็น หากใครมีอาการผิดปกติ ไข้ ไอ เจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล จาม ครั่นเนื้อครั่นตัว ขอให้หยุดเรียนหยุดงาน นึกถึงโควิด-19 ไว้เสมอ และรีบตรวจรักษา เตรียมที่ทางและข้าวของหยูกยาอุปกรณ์จำเป็นไว้ในบ้าน เผื่อใช้ยามคนใดคนหนึ่งไม่สบาย ระลึกไว้ด้วยว่า ติดเชื้อโควิด แม้รักษาหายแล้ว ก็มีโอกาสเกิดอาการคงค้างได้นาน ที่เรียกว่า Long COVID โดยเรายังไม่รู้ว่า Omicron จะทำให้เกิดมากน้อยเพียงใด สายพันธุ์ก่อนๆ เกิดได้ถึง 20-40%ดังนั้นไม่ติดย่อมดีกว่า

รศ.นพ.ธีระ  ระบุด้วยว่า เละเทะกันไปใหญ่ อย่าคลั่งไปหาเชื้อเข้าตัวนะครับ ป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด ใส่หน้ากาก ล้างมือ อยู่ห่างๆ และเลี่ยงที่อโคจร...

ขอบคุณเพจ Thira Woratanarat