ความละอายบังเกิด "หม่ำ จ๊กมก" เปิดใจเคยลาออกจาก "ชิงร้อยชิงล้าน" หลังเห็นเงินที่ "เสี่ยตา ปัญญา" มอบให้ !
ยังคงเป็นเอกอุแห่งความฮา เป็นสัญลักษณ์ของความบันเทิงตัวจริงเสียงจริง สำหรับตลกชื่อดังอย่าง "หม่ำ จ๊กมก" ที่ต้องบอกเลยว่าเป็นนักสร้างเสียงหัวเราะตัวต้นๆ ของเมืองไทยเลยก็ว่าได้
โดยข่าวการปิดตัวลงของรายการ "ชิงร้อยชิงล้าน" นั้นทำให้แฟนๆ เกิดความเสียดายและใจหายอยู่ไม่น้อย และก่อนหน้านี้นั้น "หม่ำ จ๊กมก" เคยเล่าถึงเจ้านายอย่าง "ปัญญา นิรันดร์กุล" ว่า... เกือบไม่ได้ร่วมงานกับ "เสี่ยตา" เพราะละอายใจที่อาจทำงานไม่คุ้มเงินที่เขาให้มานั่นเอง
![](https://www.newtv.co.th/images/content/ct_20211217011219513.jpg)
ซึ่ง "หม่ำ" เล่าว่า "จะพูดว่าผมเป็นตลกคู่บุญของพี่ตา ปัญญา ก็ใช่นะ เพราะพี่ตาเป็นผู้ให้โอกาสแก่ผม ก่อนที่ผมจะมาอยู่ที่เวิร์ค พอยท์ ผมยังเล่นตลกอยู่ตามคาเฟ่ พี่ตาเป็นคนโทรศัพท์มาหาผม เมื่อสัก 19-20 ปีที่แล้ว ฮัลโหล หม่ำเหรอ ผมปัญญา นิรันดร์กุล พูดครับ ผมทำรายการชิงร้อยชิงล้านกับพี่จิก ประภาส ชลศรานนท์ อยากได้คุณมาร่วมงานด้วย เอาก็เอา ผมก็ไป แต่ต้องตื่นเช้า เพราะเลิกงานมาตอนตีห้า นอนหลับนิดหนึ่ง พอเก้าโมงเช้า เราก็ต้องไปที่ช่อง 7 ในสมัยนั้น ผมเล่นร่วมรายการมาสัก 4-5 ตอน ผมก็ขอลาออก"
![](https://www.newtv.co.th/images/content/ct_20211217011425701.jpg)
"ผมรู้สึกละอาย มันไม่คุ้มกับเงินที่เขาเสียให้กับเรา มันเป็นเงินเยอะมาก แล้วเราไปเล่นให้เขาเพียงแค่นี้ ผมก็บอกกับพี่ตาว่า ผมออกอากาศแค่ 10 นาที แค่นี้แล้วพี่ให้เงินผมตั้งเยอะขนาดนี้ ผมรู้สึกว่าเอาเปรียบรายการเขา แต่ตัวพี่ตาน่ะชอบผม เขาบอกผมว่า เอาน่า อย่าไปคิดอะไรมาก อยู่ไปเถอะ พี่ตาเขาก็โทรศัพท์มาดึงรั้งไว้ โทรมาทุกวัน แล้วจึงมาลงตัวที่รายการเวทีทองราวๆ ปี 2532 ช่วงนั้นออกมาจากบริษัท JSL แล้ว มาเปิดบริษัทเวิร์ค พอยท์ได้เพียงปีเดียว สำนักงานอยู่ที่หัวหมาก แล้วค่อยย้ายมาอยู่ที่สะพานใหม่ จนเป็นบริษัทมหาชน จากนั้นจึงย้ายไปอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี"
![](https://www.newtv.co.th/images/content/ct_20211217011746779.jpg)
"ถ้าวันนั้นผมไม่ได้มาร่วมงานกับพี่ตา ผมคงจะเสียใจแย่เลย ตอนนี้อยากทำอะไรก็ได้ทำ อย่าง หม่ำ On Stage ที่เพิ่งผ่านมาก็ประสบผลสำเร็จ จะบอกว่าพี่ตาไว้ใจผมก็ได้ จะบอกว่าผมเป็นลูกรัก พี่ตาอีกคนก็ได้ (ยิ้ม) ซึ่งจากจุดตรงนี้ ต่อมาทำให้ผมได้รู้จักกับพี่ปรัชญา ปิ่นแก้ว ผู้กำกับภาพยนตร์ เมื่อผมอยากสร้างภาพยนตร์ พี่ปรัชก็พาไปหาเสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐตอนเจอเสี่ยเจียง เขาก็ไม่ได้พูดอะไร ผมแค่เกริ่นๆ กับเสี่ยว่าอยากทำหนังบอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม แต่ในเรื่องผมไม่ตลกนะ เสี่ยเจียงขำก๊าก หัวเราะชอบใจ บอกว่าแค่พูดว่าไม่ตลก ก็ตลกแล้ว"
![](https://www.newtv.co.th/images/content/ct_20211217011757320.jpg)
"จากนั้นให้ทุนมาสร้างหนังแล้วก็ประสบผลสำเร็จทะลุ 100 ล้านพอทำภาคที่ 2 ก็ได้ 100 ล้านอีก ขนาด แหยมยโสธร ภาคแรกก็ทะลุ 100 ล้านอีกตอนนี้เสี่ยบอกว่าอยากทำอะไรทำไปเลยไปตั้งงบประมาณมา อย่างตอนนี้เรื่องที่ทำอยู่ก็คือ วงษ์คำเหลา กับ แหยมยโสธร ภาค2 ผู้ใหญ่เขารักเราเขาเอ็นดูเรา แต่ในท่ามกลางของความรัก เราต้องทำให้ดีที่สุด เพื่อให้เขาไว้ใจเรา ตอนนี้ผมมีอยู่ 3 บริษัทที่ต้องดูแล มีบริษัทบั้งไฟสตูดิโอ ทำเกี่ยวกับรายการทีวีอย่างเดียว บริษัทบั้งไฟฟิล์ม ทำเกี่ยวกับภาพยนตร์ และปัจจุบันยังมีรายการซูเปอร์หม่ำอีกด้วย"
![](https://www.newtv.co.th/images/content/ct_20211217011813209.jpg)