คกก.ขับเคลื่อนแก้ปัญหา จชต. ตั้งเป้ายุติความรุนแรงปี 70

2021-12-16 13:01:33

คกก.ขับเคลื่อนแก้ปัญหา จชต. ตั้งเป้ายุติความรุนแรงปี 70

Advertisement

"บิ๊กป้อม"ประชุม คกก.ขับเคลื่อนแก้ปัญหา จชต. ตั้งเป้ายุติความรุนแรงในปี 2570 มุ่งขจัดเงื่อนไขเก่าไม่ให้เกิดเงื่อนไขใหม่เพื่อความสงบสันติสุขร่วมกัน

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 3 / 64 ณ ห้องประชุม สมช. ทำเนียบรัฐบาล เพื่อติดตามสถานการณ์สำคัญและการขับเคลื่อนแก้ปัญหาในพื้นที่  ที่ประชุมรับทราบ แนวโน้มสถานการณ์ในพื้นที่และสถานการณ์โควิด - 19 และการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้  (จชต.)  โดยกลไกใน 3 ระดับ ทั้งระดับนโยบาย การแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติ และการขับเคลื่อนระดับพื้นที่ รวมทั้ง การกำหนดคณะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลฯ เพื่อประสานงานระหว่าง ครม.ราชการส่วนกลางและหน่วยงานในพื้นที่ รวมทั้งรับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ใน จชต.ผ่านกลไกสภาสันติสุขตำบล

ต่อจากนั้นได้ร่วมพิจารณา และให้ความเห็นชอบ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการบริหารและการพัฒนา จชต. ปี 2566 - 2570 โดยมุ่งให้ภาคใต้มีความสงบสุข เหตุการณ์ความรุนแรงยุติได้ในปี 70 และขจัดเงื่อนไขเก่าที่มีอยู่ให้หมดสิ้นไป ตลอดจนเงื่อนไขใหม่ไม่เกิดขึ้น และเห็นชอบแนวทางการขับเคลื่อนศูนย์พัฒนาทักษะภาษา เพื่อสื่อสารในพื้นที่ จชต. ที่จะจัดตั้งขึ้นนำร่อง 184 ศูนย์ในพื้นที่ 3 จชต.และ 4 อำเภอสงขลา มีกระทรวงศึกษาธิการ ( ศธ.)  รับผิดชอบ ต่อจากนั้นได้ร่วมพิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนงานภายใต้ คปต.ในแต่ละด้าน ทั้งด้านความมั่นคง ด้านการพัฒนา และด้านบริหารจัดการและประเมินผล

พล.อ.ประวิตร’ เป็นห่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 ในพื้นที่ โดยย้ำให้ทุกหน่วยงานบูรณาการสร้างความร่วมมือกับผู้นำทางศาสนาและผู้นำท้องถิ่น เข้ามามีส่วนร่วมสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนให้เห็นถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนและมาตรการป้องกันโควิดของภาครัฐมากขึ้น รวมทั้งดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีน เพื่อให้สามารถควบคุมโรคในพื้นที่ได้ ขณะเดียวกัน การขับเคลื่อนสภาสันติสุข ต้องเน้นการมีส่วนร่วมและตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง

สำหรับโครงการและกิจกรรมทุกด้าน ต้องเป็นงานที่สามารถขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายของแผนปฏิบัติการได้จริงและให้ถือแผนปฎิบัติการ เป็นกรอบดำเนินงานในพื้นที่ โดยเฉพาะด้านการศึกษาและสังคมพหุวัฒนธรรม ต้องตอบโจทย์การแก้ปัญหาในระดับโครงสร้างเงื่อนไขทางวัฒนธรรมให้ได้ โดยดึงทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม พร้อมกำชับว่าการดำเนินงานยุติความรุนแรงในพื้นที่และการขจัดเงื่อนไขต่างๆที่เป็นปัญหา ต้องเป็นไปตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง โดยไม่สร้างเงื่อนไขใหม่ เพื่อความสงบสันติสุขร่วมกันของประชาชนอย่างแท้จริง