ยอดดับโควิด 29 ราย 21 รายไม่ฉีดวัคซีน

2021-12-15 14:56:10

ยอดดับโควิด 29 ราย  21 รายไม่ฉีดวัคซีน

Advertisement

ศบค.ชี้แนวโน้มโควิดในไทยเริ่มลดลง วันนี้เหลือ 3,370 ราย เสียชีวิต 29 ราย ในจำนวนนี้ 21 รายไม่ฉีดวัคซีน 

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.สุมณี วัชรสินธุ์ ผอ.สำนักสื่อสารความเสี่ยง กรมควบคุมโรค ผู้ช่วยโฆษก ศบค. แถลงว่า  สถานการณ์การติดเชื้อในประเทศไทยเป็นไปตามคาดการณ์ คือมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,370 ราย เป็นผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังและบริการ 3,161 ราย จากการค้นหาเชิงรุก 78 ราย จากเรือนจำ 111 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 20 ราย ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 2,178,276 ราย วันนี้มีผู้หายป่วย 4,557 ราย หายป่วยสะสม 2,110,701 ราย ยังอยู่ในระบบการรักษา 46,315 ราย เป็น รพ.23,129 ราย ใน รพ.สนามและอื่นๆ 23,186 ราย อาการหนัก 1,018 ราย ลดลงจากเมื่อวาน 21 ราย ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 277 ราย ลดลงจากเมื่อวาน 19 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตรายใหม่ 29 ราย สำหรับการฉีดวัคซีนสะสม 98,046,970 โดส เข็ม 1 จำนวน 50,095,106 ราย เข็ม 2 จำนวน 43,643,486 ราย และเข็ม 3 จำนวน 4,308,378 ราย

สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิตรายใหม่ 29 ราย เป็นหญิง 23 ราย ชาย 6 ราย เป็นคนไทย 28 ราย เมียนมา 1 ราย อายุ 60 ปี ขึ้นไป 23 ราย คิดเป็น 79% อายุร้อยกว่า 60 ปี มีโรคประจำตัว 5 ราย คิดเป็น 18% ไม่มีโรคประจำตัว 1 ราย คิดเป็น 3 % วันนี้มีหญิงตั้งครรภ์ เสียชีวิต 1 ราย ที่ จ.ชลบุรี อายุ 43 ปี โดยมีโรคเบาหวาน และที่สำคัญคือยังไม่ได้รับวัคซีน ทั้งนี้ต้อง ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วย ทั้งนี้จากยอดฉีดซีนที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มที่มีการฉีดวัคซีนน้อยที่สุด คือ หญิงตั้งครรภ์ เป็นเครื่องสำคัญมาก เพราะกว่าครึ่งหนึ่งของหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อจะเสียชีวิตพร้อมทารก ดังนั้นขอให้สามี ญาติพี่น้องชวนหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป มาฉีดวัคซีน เพื่อความปลอดภัยของทั้งแม่และเด็ก รวมถึงในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้ง 29 รายวันนี้ มี 21 รายที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน จากการสอบสวนพบว่าเกือบทั้งหมดติดเชื้อจากคนในครอบครัว เพราะฉะนั้นนอกจากรณรงค์ให้ผู้สูงอายุฉีดวัคซีนแล้ว คนในครอบครัวอื่นๆ ก็ต้องสวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ แยกกันรับประทานอาหาร เมื่อจำแนกตามพื้นที่พบว่าอยู่ กทม. สุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 3 ราย สมุทรปราการ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ แม่ฮ่องสอน ชัยนาท อุตรดิตถ์ สตูล ตรัง ประจวบคีรีขันธ์ ระยอง ลพบุรี สระแก้ว จังหวัดละ 1 ราย นครศรีธรรมราช 4 ราย พัทลุง ชลบุรี จังหวัดละ 2 ราย

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีอัตราการติดเชื้อรายใหม่มากที่สุด โดย 6 อันดับแรกติดเชื้อหลักร้อยราย คือ กทม. 583ราย ชลบุรี 172 ราย นครศรีธรรมราช 150 ราย สมุทรปราการ 140 ราย สงขลา 135 ราย ปัตตานี 117 ราย สุราษฎร์ธานี  97 ราย เยงใหม่ 89 ราย ปราจีนบุรี 76 ราย และตรัง 71 ราย ส่วนคลัสเตอร์ที่ยังแพร่ระบาดต่อเนื่องยังเจอในสถานประกอบการ และโรงงาน คือ ใหม่ๆ คือ ปราจีนบุรี  ระยอง ขอนแก่น ในตลาดยังพบที่จันทบุรี สระแก้ว ลพบุรี ส่วนที่ค่ายทหารพบที่ประจวบฯ คลัสเตอร์งานศพยังพบที่ขอนแก่น นราธิวาส ขณะที่ร้านอาหารยังพบรายงานต่อเนื่องที่กทม. และสุราษฏร์ธานี  ทางศบค. ก็ห่วงใย โดยเฉพาะกลุ่มที่มีการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนจะพบมากขึ้นในข่วงที่มีการหยุดยาวนี้ โดยเฉพาะที่ต้องเฝ้าระวังมากคือตลาดและร้านอาหาร ซึ่งร้านที่มีการรายงานต่อเนื่องคือร้านหมูกระทะ ปัจจัยเสี่ยงจากการที่มีการรับประทานจากกระทะเดียวกันและใช้เวลานาน ส่วนที่เป็นตลาด เนื่องจากการจับจ่ายใช้สอยในวันหยุด ดังนั้น ขอให้คงเคร่งครัดมาตรการโควิด ฟรี เซตติ้ง ทุกฝ่ายฉีดวัคซีนครบโดส จัดสถานที่ไม่ให้แออัด การถ่ายเทอากาศดี สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ เช่นเดียวกับการกินเลี้ยงปีใหม่ ทั้งในครอบครัว หรือคนรู้จักกลุ่มเล็กๆ ก็ต้องระมัดระวัง และควรตรวจ ATK ทั้งนี้ปีใหม่ขอความร่วมมือประชาชนเป็นหูเป็นตา หากมีการจัดงาน หรือมีกิจกรรมเสี่ยงเช่น คนแออัดมาก ไม่สวมหน้ากากอนามัย ขอให้รายงานที่สายด่วน 1111 ได้เลย

ญ.สุมณี กล่าวต่อว่า ที่ประชุม EOC กระทรวงสาธารณสุข มีมติ ให้ฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 อีก 2 สูตร คือ หากฉีดแอสตร้าเซนเนกา 2 เข็ม ให้กระตุ้นด้วยไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา ระยะห่างจากเข็ม 2 นาน 3 เดือน ส่วนคนที่ได้รับสูตรไขว้เข็มแรก เป็นซิโนแวค หรือซิโนฟาร์ม เข็ม 2 เป็น แอสตราฯ เข็ม 3 ก็ไห้ฉีดกระตุ้นด้วย แอสตร้าฯ หรือไฟเซอร์ หรือ โอมเดอร์นา ระยะห่างจากเข็ม 2 ที่ 3 เดือน โดยหากอยู่ต่างจังหวัดติดต่อได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือสถานพยาบาลที่ฉีดเข็ม 2 ส่วนผู้ที่อยู่ในกทม. ติดต่อได้ที่ 1. รพ.สังกัด กทม. 11 แห่ง 2. ศูนย์บริการสาธารณสุข 6 แห่ง นัดหมายผ่านแอพฯ QQ 3. วอล์ค อิน ฉีดศูนย์ฉีดวัคซีน กทม. กีฬาเวศน์ 2 ไทย-ญี่ปุ่น และ 4. จองคิวผ่านเครือข่ายมือถือเพื่อฉีดที่สถานีกลางบางซื่อ