กลายเป็นคุณแม่ลูกหนึ่งไปแล้วสำหรับนักแสดงสาวหน้าคม "หยาดทิพย์ ราชปาล" ที่ช่วงนี้มีเวลาออกมารับงานแสดงอีกครั้งในเรื่อง "ศรีษะมาร" ล่าสุดเจอสาวหยาดเลยสอบถามถึงเรื่องที่ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกลางปีที่เจ้าตัวติดโควิด-19 โดยสาวหยาดได้เผยถึงเรื่องนี้พร้อมเปิดใจในบทบาทคุณแม่ในชีวิตจริงไว้อย่างน่าสนใจว่า
จริงๆตอนช่วงโควิดก็ค่อนข้างหนักด้วยความเครียด ตอนนั้นท้องอยู่ 4-5 เดือน ตอนที่หยาดติดโควิดก็หนักเหมือนกันนะเพราะอยู่ห้องไอซียู แต่ไม่ได้ออกข่าวเพราะมันหมดแรงอ่ะ มันไม่มีแรงเหมือนคนป่วยอ่ะ เลยไม่ได้อัปเดตเลยค่ะ คือหยาดมีโรคประจำตัวเป็นลิ่มเลือดอุดตันอยู่แล้ว พอมาติดโควิดและก็ท้องด้วยมันก็เสี่ยงที่จะไปกระตุ้นเรื่องนี้ พอเจาะเลือดตรวจร่างกายมันมีภาวะเสี่ยงสูง ต้องทานยาฉีดยา แต่ตอนนี้ทุกอย่างเป็นปกติแล้ว
กังวลมั้ยเพราะตอนนั้นเราท้องและต้องทานยาเยอะด้วย?
หยาดก็กังวลค่ะ หยาดไม่ได้ความรู้หรือข้อมูลอะไรที่ชัดเจน เมื่อย้อนกลับไปช่วงนั้นคือมันยังไม่มีข้อมูลค่ะ เราต้องพยายามวางใจและให้ทางคุณหมอเป็นผู้ดูแลค่ะ
สามีกังวัลเป็นพิเศษมั้ย?
ทุกคนก็กังวลในตอนนั้น หยาดได้รับแมสเสจจากทุกคนเยอะมาก ทั้งเพื่อนๆและคนในไอจี ต้องบอกตรงนี้ว่าหยาดไม่ได้ตอบในตอนนั้นเลยเพราะว่ามันไม่มีแรงจริงๆ แค่พูดยังหายใจไม่ทันอ่ะ แรงหยิบโทรศัพย์ก็ไม่มีเพราะป่วยหนัก ก็ขอขอบคุณทุกคน ณ ตรงนี้เลยนะคะ ตอนนี้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ทุกอย่างค่ะ(ยิ้ม)
แต่ก็ไม่ได้มีผลข้างเคียงเรื่องปอดใช่มั้ย?
มันไม่ได้มีผลข้างเคียง แต่เรายังคงต้องกินยาโรคประจำตัวที่เราเป็นค่ะ
ออกมาทำงานแบบนี้มีกังวลบ้างมั้ย?
ก็แอบกังวลค่ะ แต่กองถ่ายละครก็มีมาตรการป้องกันค่อนข้างแน่นหนานะคะ เราก็เลยวางใจได้ค่ะ
หุ่นดีเหมือนเดิม?
ตอนนี้น้ำหนักเท่าเดิมแล้วค่ะ ไม่ได้ตั้งใจลดน้ำหนักเลยค่ะ หยาดทานเพิ่มมากขึ้นด้วยค่ะ คือเรายังต้องให้นมลูก อาจจะด้วยนอนน้อยตามวิถีคุณแม่เนอะ และกลับมาทำงานด้วยก็น้ำหนักลดทีเดียวเป็นสิบโลในเดือนเดียวเลยค่ะ
เป็นยังไงบ้างกับชีวิตคุณแม่ลูกอ่อน?
ดีมากๆเลย ตอนแรกเราก็จินตนาการไม่ออกค่ะ เพราะในครอบครัวทั้งสองฝ่ายยังไม่มีใครมีเด็ก มีหลาน เราก็เลยไม่ค่อยคุ้นชินกับการมีเด็กในครอบครัว พอน้องเกิดมาคือดีมากเลยค่ะ สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุขให้กับครอบครัวค่ะ
การเป็นคุณแม่เหมือนอย่างที่เราคิดไว้มั้ย?
ก็ดีนะ รู้สึกว่าชีวิตเราก้าวไปอีกสเต็ป เหมือนเราโตขึ้นจริงๆแล้วในทุกๆด้าน ตอนนี้ไม่ได้รับผิดชอบแค่ชีวิตตัวเองและครอบครัวเราแล้ว ครอบครัวเราใหญ่ขึ้น ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น
เป็นการเติมเต็มครอบครัว?
เติมเต็มทุกอย่างค่ะ เค้าจะมีความน่ารักของเค้าที่แบบเด็กหนึ่งเดือนทำแบบนี้ได้ด้วยหรอ พอสองเดือนหัวเราะแบบนี้ได้หรอ พอเราเป็นแม่อย่างที่คนบอกว่าเดี๋ยวคอยดูนะจะเห่อลูก ก็จริงเลยนะ เราจะเห็นลูกเรากลิ้งไปกลิ้งมา พลิกไปพลิกมา พอตีห้าหรือหกโมงเช้าเราก็อยากมาดูแล้ว พอเค้านอนกับเราก็จะแบบน่ารักจังเลย
เลี้ยงยากมั้ย?
ก็จะมีการปรับ ต้องยอมรับว่ามันก็ไม่ได้ง่ายค่ะ แต่หยาดผ่านจุดนั้นมาแล้ว อย่างที่เค้าบอกว่าช่วงสามเดือนแรก ตอนนี้สามเดือนครึ่งแล้วทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว
ยังไม่มีคอมเมนต์อะไรแรงๆใช่มั้ย?
ไม่มีค่ะ จะมีแค่ว่าเราลดความอ้วนหรือเปล่า ก็คือหยาดไม่ได้ลดนะ หยาดนอนน้อยจริงๆ วันนึงแค่ 4 ชั่วโมง มันก็ลดลงไปเอง
ล่าสุดไปเที่ยวทะเลมา?
ไม่ได้ไปทะเลมาเกือบปี(หัวเราะ) พอได้ไปคือดีใจมาก ไม่ได้ออกจากบ้านเลยอ่ะ ไม่ได้เจอพ่อแม่ตัวเอง ไม่ได้เจอใครเลยค่ะ มีขั้นต่ำ 5-6 เดือนเลยค่ะ ไม่ไปห้างไม่ออกไปไหนเลย มีที่เดียวคือไปโรงพยาบาล ช่วงที่ออกจากโรงพยาบาลตอนที่ติดโควิดอ่ะค่ะ
ทริปนี้คุณแม่แซ่บมาก?
ก็ขอแซ่บนิดนึงเนอะ
เราออกมาทำงานแบบนี้ สามีว่าไงบ้าง?
เค้าก็ไม่ได้ว่าไรนะคะ เค้าก็บอกว่าแล้วแต่เราค่ะ อยากจะทำอะไรก็แล้วแต่เราเลยค่ะ
แพลนลูกคนที่สองไว้หรือยัง?
ยังค่ะ(หัวเราะ) ตอนนี้ยังเลย ไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลยค่ะ
เราก็ไม่ได้คิดที่จะพักงานในวงการใช่มั้ย?
ตอนนี้หยาดอยากถ่ายเรื่องนี้ให้เสร็จก่อน ถ้าจบเรื่องนี้ก็กำลังคิดอยู่ค่ะจะรับงานยาวหรือยังไง ด้วยปีนี้ครบ 30 ปี ที่เล่นละครมา หยาดเล่นละครมาตั้งแต่ 5 ขวบ เรารู้สึกว่ามันยาวนานมากจนฝังอยู่ในร่างกายในจิตใจอ่ะ ช่วงที่หยุดไป 6-7 เดือนที่ผ่านมาก็คิดถึง ถามว่าหน้าที่แม่ก็คือหน้าที่อันดับหนึ่ง หยาดเชื่อว่าถ้าเราจัดสรรเวลา แบ่งเวลาได้ดี ทุกอย่างมันก็ทำได้ค่ะ