"ชัยชนะ"ชม "ดร.เอ้" มีความมุ่งมั่นตั้งใจ มีแนวคิดใหม่ๆ ในการพัฒนา กทม.
เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ "ดร.เอ้" ลาออกจากตำแหน่ง อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เพื่อมาเป็นผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในนามพรรคประชาธิปัตย์ โดยจะมีการเปิดตัวในวันที่ 13 ธ.ค. นี้ว่า การลาออกจากของ ดร.สุชัชวีร์ นั้น ถือเป็นการตัดสินใจที่สำคัญเหมือนกับกรณีที่ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ได้ลาออกจากบริษัท ที.เอ.ออเรนจ์ จำกัด (ปัจจุบันคือ ทรูมูฟ) เพื่อนำประสบการณ์การบริหารงานที่หลากหลาย มาเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่ให้คนกรุงเทพมหานครพิจารณาในการเลือกตั้งผู้ว่า ฯ กทม. เมื่อปี 2547 และในที่สุด นายอภิรักษ์ ก็ได้รับความไว้วางใจให้มาดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จนสร้างผลงานที่ยังอยู่ในความทรงจำของประชาชนจนถึงปัจจุบันนี้
นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า จากการที่ตนได้มีโอกาสพูดคุยกันมาบ้างก็เห็นว่า ศ.ดร.สุชัชวีร์ เป็นบุคคลที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจ และมีแนวคิดใหม่ๆ ในการพัฒนากรุงเทพฯ โดยก้าวไปสู่ความทันสมัยและสมดุลท่ามกลางความหลากหลายของพื้นที่และประชากรของกรุงเทพฯ โดยเฉพาะแนวคิดการสร้างทางจักรยานลอยฟ้า โดยอาศัยเส้นทางตามแนวรถไฟฟ้า โดยจัดโครงสร้างและสภาพแวดล้อมให้มีความปลอดภัยต่อผู้ขับขี่ ซึ่งจะทำให้ผู้ขับขี่จักรยาน ไม่ว่าจะเพื่อสุขภาพหรือเพื่อปฏิบัติภารกิจในแต่ละวัน สามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัย จากแนวคิดดังกล่าวถือได้ว่า ดร.สุชัชวีร์ มองเห็นถึงปัญหาของการสร้างจักรยานบนถนนในอดีต ที่ในท้ายที่สุดแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ ก็กลับกลายเป็นอันตรายสำหรับที่ผู้ใช้จักรยานเสียเอง เพราะฉะนั้น ในการเปิดตัว ศ.ดร.สุชัชวีร์ ลงสมัครในนามพรรคในวันที่ 13 ธ.ค. นี้ ประชาชนก็จะได้ทราบถึงแนวทางการบริหารงาน และนโยบายเบื้องต้นของ ศ.ดร.สุชัชวีร์ ซึ่งทางพรรคฯ หวังว่า จะเป็นความประทับใจแรกหรือ เฟิสท์ อิมเพรสชั่น ให้กับคนกรุงเทพฯ เพื่อในท้ายที่สุดเมื่อถึงวันเลือกตั้งแล้ว ประชาชนจะสนับสนุนให้ ดร.สุชัชวีร์ เป็นผู้ว่าฯ กทม. เพื่อให้บริหารมหานครแห่งนี้ไปเป็นระยะเวลา 4 ปีนับจากนี้
นายชัยชนะ กล่าวด้วยว่า ส่วนผลโพลล์ที่ระบุว่า ศ.ดร.สุชัชวีร์ มีผลสำรวจตามหลังว่าที่ผู้สมัครรายอื่นๆ นั้น ตนเห็นว่า ยังมีเวลาที่จะทำให้ชื่อของ ศ.ดร.สุชัชวีร์ เป็นที่รู้จักของคน กทม. มากยิ่งขึ้น โดยอาศัยกลไกของพรรคทั้ง อดีต ส.ส. ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ในพื้นที่ รวมทั้งการที่ประชาชนคนกรุงเทพฯ เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองที่เคียงข้างและร่วมทุกข์ร่วมสุขกับคนกรุงเทพฯ ไม่ว่าสถานการณ์ใดๆ ก็ตาม ดังนั้นตนเห็นว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งนี้ ว่าที่ผู้สมัครฯ ของพรรคประชาธิปัตย์ มีความพร้อมไม่น้อยหน้ากว่าบุคคลอื่นๆ ที่มีชื่อปรากฏทางสื่อว่า มีความสนใจที่ลงสมัครฯ และส่งสัญญาณให้เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมที่จะดูแลคนกรุงเทพฯ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีเหมือนกับที่ประชาชนได้ให้โอกาสกับพรรคฯ ได้มาดูแลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 - 2559 ซึ่งมีผลงานหลายอย่างเป็นที่จดจำของคนกรุงเทพฯ อีกด้วย
ขอบคุณภาพเพจ เอ้ สุชัชวีร์