พยาบาลบุกสภาฯร้อง"สิระ" ขอความเป็นธรรมไม่ได้รับเงินเสี่ยงภัยโควิด ด้าน "สิระ" จี้ ผอ.รพ.ตอบใช้เกณฑ์อะไรจ่ายเงินให้ รปภ.แต่ทิ้งพยาบาล
เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. นางนิลุบล ไชยโกมล พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ รพ.รัฐบาลแห่งหนึ่ง ได้ยื่นหนังสือต่อนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน เนื่องจากผู้บริหาร รพ. ยังไม่จ่ายเงินค่าตอบแทนจากการปฏิบัติงานในสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเป็นเงินตอบแทนพิเศษรายเดือน เดือนละ 1,500 บาท ตั้งแต่เดือน มี.ค.-ต.ค. 2563 ซึ่งตามข้อตกลงพยาบาลและบุคลากร รพ. จะได้รับ 1 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน นอกจากนี้จะมีเงินค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนสำหรับผู้ปฏิบัติงานตรง และผู้ปฏิบัติงานสนับสนุน และการเบิกจ่ายเงินค่าเสี่ยงภัย ตามมติ ครม.ที่ได้อนุมัติไปก่อนหน้านี้แล้ว
นางนิลุบล กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2563 มีการระบาดของโควิด-19 ในระลอกแรก ช่วงเดือน มี.ค.-ต.ค. 2563 ตามข้อตกลงพยาบาลและบุคคลากร รพ.จะได้รับ 1 เปอร์เซ็นต์สำหรับเงินเดือน นอกจากนี้จะมีเงินค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนสำหรับผู้ปฏิบัติงานตรงและผู้ปฏิบัติงานสนับสนุนและการเบิกจ่ายเงินค่าเสี่ยงภัยในกลุ่ม pui โดยทั้ง 3 รายการนี้เราไม่ได้รับการเบิกจ่าย เราไม่ได้ถูกเลือกให้ได้รับ เป็นที่น่าสังเกตว่าจากบุคลากรทั้ง 3,500 คน มีเพียง 600 คน ได้เงิน 3 รายการดังกล่าว แต่ที่เหลือไม่ได้รับ เราก็ไม่ทราบว่าใช้เกณฑ์อะไรตัดสิน
ด้านนายสิระ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนได้รับรายงานมาว่า การเบิกจ่ายเงินดังกล่าว พยาบาลจำนวนมากใน รพ.ไม่ได้รับ และแต่ละคนก็ได้รับจำนวนไม่เท่ากัน โดยให้เป็นอำนาจของ ผอ.รพ.เป็นผู้บริหารจัดการ ทั้งนี้ยังมีข้อมูลเปิดเผยว่า มีการจ่ายเงินค่าเสี่ยงภัยให้กับ พนักงานรักษาความปลอดภัย ทั้ง ๆ ที่เป็นการจ้างเหมาจากบริษัทเอกชน และะไม่ได้รับเงินเดือนจาก รพ. จำนวน 13 คน และมีการให้ รปภ.ดังกล่าวไปเปิดบัญชีที่ธนาคารกรุงไทย เพื่อรองรับการโอนเงินเข้า ต่อมาได้แจ้งให้ รปภ.ถอนเงินสดนำมาคืน ซึ่งบางคนไม่สามารถนำมาคืนได้ เพราะได้ใช้ไปแล้ว ทำให้เป็นหนี้ รพ. และต้องหักจากเงินเดือนมาคืน รพ. เรื่องนี้ถ้าเป็นข้อเท็จจริงจะต้องจัดการกับ ผอ.รพ.อย่างถึงที่สุด กมธ.กฎหมายจะตรวจสอบ และ ผอ.คนดังกล่าวต้องตอบให้ได้ว่า ใช้ดุลยพินิจอะไรที่จ่ายเงินให้กับ รปภ.แต่กลับไม่ให้พยาบาล อีกส่วนหนึ่งผมได้กราบเรียนประเด็นนี้ต่อนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุขแล้ว โดยท่านรัฐมนตรีแจ้งว่า จะเข้ามาตรวจสอบให้ความช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์อย่างเต็มที่