"พิพัฒน์"มั่นใจปี 65 รายได้ท่องเที่ยวกลับมาอู่ฟู่

2021-12-02 13:33:35

 "พิพัฒน์"มั่นใจปี 65 รายได้ท่องเที่ยวกลับมาอู่ฟู่

Advertisement


"พิพัฒน์"แจงสภาฯเดินหน้าเปิดประเทศ ขอ ปชช.สบายใจ  "โอไมครอน" ไม่กระทบไทย มั่นใจปี 65 รายได้ท่องเที่ยวไทยกลับมาอู่ฟู่

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 ธ.ค. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ได้มีการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจาของนายวรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ ส.ส.สตูล พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ถามนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เรื่อง การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามา และการท่องเที่ยวภายในประเทศ รวมถึงมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ว่า ตอนนี้สถานการณ์ประเทศคึกคักมากขึ้น มีชาวต่างชาติเข้ามามากขึ้น ร้านอาหาร โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยวเริ่มกลับมาเปิดมากขึ้น จากการเปิดประเทศช่วงที่ผ่านมามีผลชี้วัดเป็นอย่างไร ส่งผลต่อตัวเลขทางเศรษฐกิจอย่างไร และมีแผนขยายขอบเขตการเปิดประเทศอย่างไร ตนเชื่อว่าการเปิดประเทศเป็นสิ่งที่ทุกคนเฝ้ารอ ทุกอาชีพมีความหวังมากขึ้น แต่ตนมีความเป็นห่วงเรื่องเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ ซึ่งครั้งนี้ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญโดยทั่วโลกออกมาตื่นตัวเป็นอย่างมาก และWHO ออกมาติดตามการระบาดอย่างใกล้ชิด เพราะเชื้อโอไมครอนระบาดได้เร็วกว่าเชื้อสายพันธุ์เดลต้า หลายประเทศยกระดับป้องกันแล้ว ทั้งญี่ปุ่น สหรัฐฯ แคนาดา จากสถานการณ์นี้กระทรวงท่องเที่ยวฯประเมินสถานการณ์ และเตรียมแผนรับมืออย่างไร เพื่อสร้างความเชื่อมั่น รวมถึงจะมีการดูแลเยียวยาผู้ประกอบการและคนกลางคืนที่ได้รับผลกระทบ และจะผ่อนปรนมาตรการอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องการขยายเวลาเปิดให้บริการดิ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แทนการให้นำใส่ถุงกลับบ้าน

ด้านนายพิพัฒน์ ชี้แจงว่า ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีดำริว่าประเทศไทยเว้นว่างจากการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการท่องเที่ยวในประเทศมานานเกือบ 2 ปี ดังนั้นจะทำอย่างไรและเริ่มต้นตรงไหนก่อน ตนจึงนำเรียนว่าสิ่งที่เราจะเปิดได้ก่อนคือการท่องเที่ยวชาวไทยในประเทศและต่อมาคือการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา โดยเสนอใช้พื้นที่ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เพื่อดูแลและป้องกันได้ง่ายที่สุด เพราะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ และเป็นเกาะ ง่ายต่อการดูแลป้องกัน ดังนั้นจึงได้เปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ทั้งนี้ปี 62 ประเทศไทยรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 39.8 ล้านคน และการท่องเที่ยวของคนไทยในประเทศประมาณ 100 ล้านคน มีรายได้ 3.01 ล้านล้านบาทถือว่าสูงสุด ต่อมาปี 63 เป็นปีที่มีการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จากอู่ฮั่นทำให้ประเทศไทยปิดน่านฟ้า

รมว.ท่องเที่ยวฯ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ปี 64 หลังจากการเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ในวันที่ 1 ก.ค. 64 ช่วงเวลา 3 เดือนหลังจากนั้นมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประมาณ 62,000 กว่าคน มีรายได้เฉลี่ยต่อคนประมาณ 60,000 บาท และประมาณการณ์ว่าปีนี้หลังจากประกาศปลดล็อกอีก 17 จังหวัด จากวันที่ 1 พ.ย. 64 ถึงวันที่ 30 พ.ย. 64มีนักท่องที่ยวต่างชาติเข้ามา 100,100 กว่าคน อีกทั้งประมาณการณ์ว่าปี 64 เฉพาะคนไทยเที่ยวในไทยประมาณ 100 ล้านคน รายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 650,000 ล้านบาท สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการประมาณการณ์ว่าปี 65 เราน่าจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ 1.3 -1.8 ล้านล้านบาท หากประเทศจีนเปิดเราจะได้นักท่องเที่ยวมากขึ้นอีก อีกทั้งการเปิดประเทศเพื่อนบ้านชายแดนเราก็จะมีรายได้อีกประมาณ 3 แสนล้านบาท ในเดือนพ.ย. 64 เราตั้งเป้านักท่องเที่ยวไว้ 3 แสนคน แต่เราได้ 1 แสนคน ส่วนเดือนธ.ค. เราตั้งเป้า 3 แสนคน ซึ่งน่าจะได้ตามเป้าหมาย แต่สำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2565 ช่วงไฮซีซั่นของไทยคาดว่านักท่องเที่ยวต่าวงชาติน่าจะกลับมาเที่ยวในเมืองไทยเหมือนอดีตที่ผ่านมา

รมว.ท่องเที่ยวฯ กล่าวต่อว่า ส่วนสถานการณ์กลายพันธุ์ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ขอยันยันว่าจากการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ขณะนี้นักท่องเที่ยวต่างประเทศยังยืนยันการเดินทางมาไทย โดยไม่มีการถอนการเดินทาง และรัฐบาลได้สั่งให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวฯ กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและติดตามนักท่องเที่ยวชาวแอฟริกาที่เข้ามาไทยตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 64 ติดตามมาให้ได้ทุกคน และประกบตัว เพื่อเชิญนักท่องเที่ยวเหล่านั้นเข้ามาตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 64 เป็นต้นมา ยังไม่มีนักท่องเที่ยวจาก 8 ประเทศแแอฟริกาเข้าประเทศไทยอีกเลย ตราบใดที่ประเทศไทยยังมีการป้องกันโดยกระทรวงสาธารณสุขและคนไทยทั้งชาติช่วยกัน เขาจะตัดสินใจได้ทันทีว่าจะยังเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย รวมทั้งจากการตรวจสอบสถิติผู้ติดเชื้อพบว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยดูแลตนเองดีอยู่แล้ว ขอให้คนไทยสบายใจได้ อย่างไรก็ตามกระทรวงการท่องเที่ยวฯขอขยายเวลาในพื้นที่บลูโซนจากเวลา 21.00 น. เป็นเวลา 23.00 น. และการเปิดผับ บาร์หรือคาราโอเกะพยายามเสนอในศบค.และหารือกับกระทรวงสาธารณสุขว่าเรามีวิธีผ่อนปรนอย่างไร และจะเปิดเป็นโซนได้อย่างไรในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยว