"อนุชา"เป็นประธานทอดผ้าป่าทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย
เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร กทม. เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์ พิธีทอดผ้าป่าเพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต และสบทบทุนโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย คณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร
สำหรับโครงการทุนเล่าเรียนหลวงฯ เกิดขึ้นได้ด้วยราชอาณาจักรไทยสถิตสถาพรอยู่ได้ด้วยมีสถาบันพระพุทธศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์คอยเกื้อหนุน ค้ำจุนให้ดํารงความเป็นไทยสืบมานับแต่บรรพกาลตราบกระทั่งปัจจุบัน การดํารงอยู่ของพระพุทธศาสนาบนแผ่นดินไทย ย่อมเสมอด้วยการดํารงอยู่ของชาติบ้านเมือง พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์จึงทรงรับพระราชภาระใส่พระราชหฤทัยทํานุบํารุง การศึกษาพระปริยัติธรรม ทรงพากเพียรแก้ไขปัญหาและอุปสรรคให้ผ่านพ้น ดลบันดาลความเจริญก้าวหน้ามาสู่การศึกษา ของพระสงฆ์ไทยสืบมาทุกยุคทุกสมัย ด้วยตราบใดที่พระปริยัติธรรมยังคงดํารงอยู่อย่างบริสุทธิ์บริบูรณ์ และตราบใดที่ พระสงฆ์ยังคงทําหน้าที่เผยแผ่พระสัทธรรมได้อย่างถูกต้องตามหลักการในพระไตรปิฎก ตราบนั้นก็เปรียบประดุจสมเด็จพระ สัมมาสัมพุทธเจ้ายังเสด็จดํารงพระชนม์ชีพอยู่เป็นพระศาสดาของพระศาสนานี้มิมีวันดับสูญ
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเป็นผู้พระราชทานกําเนิดโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสําหรับพระสงฆ์ไทย แม้สด็จสวรรคต ล่วงลับไปแล้ว แต่สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้ารัชกาลปัจจุบัน ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐยังทรงเอาพระราชหฤทัยใส่ สืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชกรณียกิจประการนี้สืบมา สมควรที่พุทธบริษัททุกหมู่เหล่า จักร่วมกันเจริญรอยตามเบื้อง พระยุคลบาทสนับสนุนโครงการนี้ เพื่อความไพบูลย์วัฒนาของการศึกษาสําหรับพระสงฆ์ไทย อันจักยังคุณูปการยิ่งใหญ่แก่ สถาบันชาติและสถาบันพระพุทธศาสนาเป็นหลักชัยของชีวิตชาวไทยทั้งหลายสืบไป