5 วิธีฟื้นฟูจิตใจก้าวผ่านวิกฤต COVID-19

2021-11-15 09:32:07

5 วิธีฟื้นฟูจิตใจก้าวผ่านวิกฤต COVID-19

Advertisement

5 วิธีฟื้นฟูจิตใจก้าวผ่านวิกฤต COVID-19

แม้ว่าการแพร่ระบาดของ COVID-19 จะเริ่มคลี่คลายลง การปลด Lock Down อาจทำให้ผู้คนสามารถออกมาใช้ชีวิตได้ตามปกติกันมากขึ้น แต่ก็ยังต้องอยู่ภายใต้ข้อปฏิบัติและมาตรการที่เข้มงวดทางสังคม ซึ่งจะต้องทำร่วมกันหรือที่เรียกว่าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแบบ New Normal เพื่อป้องกัน ไม่ให้มีการแพร่ระบาดครั้งใหม่เกิดขึ้น

ตั้งแต่ COVID-19 เกิดขึ้นมา ทำให้มีการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบกะทันหัน ซึ่งส่งผลกระทบหลายด้านไม่ว่าจะเป็น ด้านการใช้ชีวิต เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา โดยเฉพาะส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ ที่หากเราไม่รู้จักวิธีรับมืออย่างถูกวิธีในระยะยาวแล้ว อาจสร้างบาดแผลทางจิตใจ ส่งผลให้เกิดเป็นโรคทางจิตเวชต่าง ๆ ตามมาได้

มาดู 5 วิธีฟื้นฟูจิตใจให้ก้าวผ่านวิกฤต COVID-19 ซึ่งทุกคนสามารถทำตามกัน ดังนี้

1. มีสติและอยู่กับปัจจุบัน

เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น สิ่งแรกที่ควรทำคือการตั้งสติ ทำความเข้าใจว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้นั้นเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ควรกลับมาอยู่กับปัจจุบัน รู้ทันและเปิดรับการมีอยู่ของอารมณ์ ความรู้สึก เพราะเป็นธรรมดาของมนุษย์ที่หากต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ มักจะมีความคิดที่เป็นกังวลเกิดขึ้นมาเสมอ ดังนั้น การมีสติเข้าใจตัวเอง ค่อยๆ เรียนรู้ที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาที่เข้ามาและดูว่ามีอะไรที่เราสามารถทำได้บ้างคือ “วิธีรับมือที่เราพึงจะทำได้มากที่สุด ณ ขณะนี้”

2. ค้นพบตัวตนในมุมใหม่

หลายคนอาจจะมองว่า ช่วงนี้มีเวลาว่างและอยู่กับตัวเองมากเกินไป จนจิตใจห่อเหี่ยว ไม่ค่อยได้ออกไปพบปะเพื่อนฝูงเหมือนเมื่อก่อน แต่จริง ๆ แล้ว การได้อยู่กับตัวเองมากขึ้นนั้นอาจทำให้เราพบเห็นตัวเองในมุมใหม่ ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อน เช่น จากที่ทำอาหารไม่เป็น ก็ค้นพบว่า ตัวเองสามารถทำอาหารได้อร่อย แถมยังเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ช่วยกระชับความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี หรือบางคนที่เคยคิดว่าตัวเองจะลดน้ำหนักไม่ได้ ก็ใช้ช่วงเวลานี้ซุ่มฟิตหุ่น ออกกำลังกาย เปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนใหม่ที่ดีขึ้นทั้งรูปร่าง สุขภาพ และจิตใจ

3. ติดตามข่าวสารแต่พอดี

การเสพข่าวสารเกี่ยวกับ COVID-19 ยังเป็นเรื่องที่จำเป็น แต่การรับรู้ข้อมูลมากเกินไป อาจทำให้เกิดความวิตกกังวลได้ จึงควรติดตามข่าวสารแต่พอดี เพื่อป้องกันการเสพสื่อมากเกินไปจนอาจรู้สึก Panic และเลือกเสพเฉพาะแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ เช่น แหล่งข่าวจากหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรด้านสาธารณสุข ไม่ส่งต่อข่าวที่ได้รับมาจากใน Chat สนทนาบน Application เนื่องจากมีโอกาสเป็น Fake News สูงได้

4. ส่งต่อพลังใจที่สร้างสรรค์

แม้จะต้องเว้นระยะห่างทางสังคมหรือปรับพฤติกรรมการชีวิตให้เป็นรูปแบบ New Normal แต่เราก็ยังสามารถดูแลและใส่ใจคนรอบข้างได้ด้วยการพูดคุยกับเพื่อน ๆ ผ่าน Chat บน Application หรือ Video Call ได้ตามปกติ หรือหากเดินผ่านก็ส่งรอยยิ้มทักทายกัน โดยแนะนำว่าให้พยายามหลีกเลี่ยงการพูดถึงเรื่องเครียดและเปลี่ยนไปคุยกันในเรื่องทั่วไป ไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบของคนรอบข้างบ้าง แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สิ่งเหล่านี้จะช่วยคลายความรู้สึกโดดเดี่ยวและบรรเทาความเครียดของตัวเราเองและคนรอบข้างได้

5. ปรึกษาจิตแพทย์

แน่นอนว่าในสถานการณ์ COVID-19 แบบนี้ หลายคนอาจจะต้องเผชิญกับความเครียด ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การรับมือกับความเครียดที่เกิดขึ้นของแต่ละคนนั้นมีประสิทธิภาพไม่เท่ากัน คนทั่วไป อาจจะใช้เวลาในการปรับตัวไม่นาน แต่คนที่มีปัญหารุมเร้าได้รับผลกระทบมาก จนไม่สามารถปรับตัวจัดการกับความเครียดได้ หรือผู้ที่มีอาการทางจิตเวช อาจจำเป็นต้องเข้ารับการปรึกษาและพูดคุยกับจิตแพทย์ เพื่อหาวิธีการรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งในปัจจุบัน การปรึกษาจิตแพทย์นั้นไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะนอกจากจะช่วยรักษาสุขภาพจิตได้อย่างถูกวิธีแล้ว ยังทำให้เรารับมือกับปัญหาอื่น ๆ ได้ดีขึ้นอีกด้วย

หวังว่า 5 วิธีฟื้นฟูจิตใจให้ก้าวผ่านวิกฤต COVID-19 ที่แนะนำมานี้ จะช่วยทำให้ทุกคนสามารถทำตามและก้าวผ่านกันไปได้ด้วยกัน

อ.นพ.กานต์ จำรูญโรจน์ ภาควิชาจิตเวชศาสตร์

คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล