รวบหมอเถื่อนโดนจับหลายครั้งไม่เข็ด

2021-11-11 17:52:31

 รวบหมอเถื่อนโดนจับหลายครั้งไม่เข็ด

Advertisement

รวบหมอเถื่อนโดนจับมาแล้วหลายครั้งล่าสุด 8 ต.ค. ประกันตัวได้ กลับมาทำผิดซ้ำ

เมื่อวันที่ 11 พ.ย. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง พ.ต.อ.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงาน การจับกุมผู้ต้องหาปลอมเอกสารของแพทย์หญิง สมัครทำงานเป็นแพทย์นอกเวลาที่สถานเสริมความงามหลายแห่ง ตรวจสอบพบเคยถูกจับ 3 ครั้ง ศาลสั่งจำคุก 7 ปี พ้นโทษเมื่อเดือน ส.ค. 2564  ถูกจับกุมครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ต.ค.2564 ประกันตัวออกมากระทำความผิดซ้ำอีก คดีนี้พนักงานสอบสวนส่งฝากขัง คัดค้านประกันตัว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้สืบสวนติดตามพฤติการณ์ น.ส.ณัฐชานันท์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาที่แอบอ้างนำใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทย์หญิงท่านหนึ่งมาใช้สมัครงานเป็นแพทย์นอกเวลาในสถานเสริมความงาม และ ถูกจับกุมตัว เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2564  แต่หลังไ้ดรับการประกันตัว ยังมีพฤติการณ์กระทำความผิดซ้ำแบบเดิม นำใบประกอบวิชาชีพของแพทย์หญิงมาปลอมแปลงตัดต่อใบหน้าของตนเอง ใส่ในใบประกอบวิชาชีพแล้วนำเอกสารดังกล่าว มาใช้สมัครทำงานที่สถานเสริมความงามแห่งหนึ่ง ย่านเมืองทองธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้ง แพทย์หญิงที่ถูกผู้ต้องหานำใบประกอบวิชาชีพไปปลอมแปลงและสถานเสริมความงาม ที่ น.ส.ณัฐชานันท์ ไปสมัครทำงาน มาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 พ.ย.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานและจับกุมตัว น.ส.ณัฐชานันท์ ระหว่างนำใบประกอบวิชาชีพที่ปลอมแปลงมาสมัครทำงานที่สถานเสริมความงามแห่งหนึ่ง ย่านเมืองทอง โดย น.ส.ณัฐชานันท์ ให้การรับสารภาพว่า ได้โพสต์กระทู้ในเว็บไซต์อ้างว่าตนจะเปิดสถานเสริมความงาม ต้องการรับสมัครแพทย์มาทำงาน โดยให้ส่งเอกสารมาให้ทางไลน์ เมื่อได้รับเอกสารจากแพทย์ จะคัดเลือกแพทย์หญิง ที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับตน จากนั้นจึงนำเอกสารดังกล่าวมาใช้สมัครทำงานในสถานเสริมความงามในเขต กทม.จำนวนหลายแห่ง

เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม  พ.ร.บประกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525   ฐานใช้คำหรือข้อความอื่นใดที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเองเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม”ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานพยายามฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น เพื่อให้ได้ซึ่งทรัพย์สิน ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ,ฐานเอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท, ฐานปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ต้องระวางโทษจำคุก 6 เดือน ถึง 5 ปี และปรับ 1,000 ถึง 10,000 บาท และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ฐานโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท