ชาวนาขอบคุณ "จุรินทร์" รับเงินส่วนต่างประกันรายได้

2021-11-10 12:59:31

ชาวนาขอบคุณ "จุรินทร์" รับเงินส่วนต่างประกันรายได้

Advertisement

ชาวนาขอบคุณ "จุรินทร์" เงินส่วนต่างประกันรายได้ถึงมือโดยตรง

เมื่อวันที่ 10  พ.ย. นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  (ปชป.) รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ได้ให้ นโยบายกรมการค้าภายใน เกี่ยวกับการประสานงานกับกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ รวมทั้งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) อย่างต่อเนื่องเหมือนที่เป็นมากับโครงการประกันรายได้ปี 1 และ 2 ขณะนี้การเดินหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรปี 3 ในพืช 5 ชนิด คือ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพด และปาล์มน้ำมัน อย่างไรก็ตามการบริหารจัดการที่ผ่านมาประสบความสำเร็จช่วยเกษตรกรได้กว่า 7.8 ล้านครัวเรือน ยังไม่นับการบริหารจัดการเกษตรกรสวนผลไม้ที่ทำให้ราคาดีด้วยการส่งออกแก้ปัญหาด้านการตลาดและพืชชนิดอื่นที่เกิดจากนโยบายยกระดับราคาร่วมงานกันระหว่างกระทรวงเกษตรและกระทรวงพาณิชย์ การเดินหน้าปีที่ 3 นี้ พืชทุกชนิดราคาดีสูงกว่ารายได้ที่ประกันไว้ทำให้รัฐไม่ต้องจ่ายเงินงบประมาณสำหรับการชดเชยมีเฉพาะข้าวเท่านั้นที่เริ่มต้นฤดูกาลนี้สถานการณ์ราคาไม่ค่อยดีด้วยหลายปัจจัยขนาดนี้รัฐจึงต้องจ่ายชดเชยส่วนต่างให้กับเกษตรกรโดยตรงตามนโยบาย ที่นายจุรินทร์ ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาก่อนการเข้าร่วมรัฐบาล


นางมัลลิกา กล่าวต่อว่า บรรยากาศการกดเงินเบิกเงินส่วนต่างประกันรายได้เกษตรกรตั้งแต่เมื่อวานนี้ ชาวนามีความสุขพร้อมขอบคุณรัฐบาลและนายจุรินทร์ที่เดินหน้านโยบายอย่างเต็มที่ และได้รับรายงานว่าการโอนเงินชดเชยส่วนต่างประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี64/65 จ่ายกว่า 1.12 หมื่นล้าน เกษตรกรได้ประโยชน์ 5.3 แสนครัวเรือน เป็นเกษตรกรชุดแรกซึ่งแจ้งวันเกี่ยวข้าวไว้เป็นงวดที่ 1 สำหรับชาวนาชุดที่เหลือซึ่งทยอยเก็บเกี่ยวข้าวโดยแจ้งวันเก็บเกี่ยวไว้ตั้งแต่ต้นฤดูกาลผลิตแล้วนั้นขณะนี้ สำหรับงวด 2-4 คณะอนุกรรมการราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงได้ประกาศราคาอ้างอิงไว้แล้ว เมื่อมีส่วนต่างก็จะทยอยตามไป อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ในที่ประชุม ครม.นายจุรินทร์ได้อธิบายเรื่องการขอให้เงินงบประมาณเพื่อชดเชยให้กับชาวนา ตามที่เคยดูแลมา 2 ปี ซึ่งข้อมูลในการพิจารณาทั้งหมดได้ผ่านคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานมาแล้ว ขณะนี้ติดเพียงว่าสำนักงบประมาณกับกระทรวงการคลังมีข้อท้วงติงเกี่ยวกับงบประมาณที่เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องทำให้ผ่านมาตรา 28 เกี่ยวกับวินัยการเงินการคลัง ตรงจุดนี้จึงเป็นหน้าที่ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ สำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลังต้องหารือกัน