ประธานสภาผู้แทนราษฎรต้อนรับ ส.ส.สหรัฐฯ ย้ำความสัมพันธ์ 2 ประเทศ 188 ปี
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 9 พ.ย. ที่ห้องรับรองพิเศษ 205 ชั้น 2 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การรับรอง ดร.อามี เบรา ส.ส.รัฐแคลิฟอร์เนีย และประธานคณะอนุ กมธ.การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกาด้านเอเชียแปซิฟิกเอเชียกลางและการป้องกันการแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ และคณะ ที่เข้าเยี่ยมคารวะเพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างสหรัฐอเมริกากับไทย โดยมีนายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ นายวิวัฒน์ มุ่งการดี ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร นายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร ผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร และ น.ส.สตีจิตร ไตรพิบูลย์สุข รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมให้การรับรอง
โดยนายชวน หลีกภัย กล่าวต้อนรับ ดร.อามี เบรา และคณะ ซึ่งจากการอ่านประวัติของคณะฯ รู้สึกชื่นชมเป็นอย่างมาก โดยตนได้รู้จักและเคยร่วมงานกับผู้นำสหรัฐฯ หลายท่าน อาทิ นายจิมมี่ คาร์เตอร์ อดีตประธานาธิบดี ที่ได้เชิญตนไปสังเกตการณ์การเลือกตั้งในประเทศอินโดนีเซีย และได้พบปะหารือกับนายบิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดี ในการประชุม APEC หลายครั้ง โดยในครั้งแรกที่ได้เดินทางไปที่ซีแอทเทิลนั้น มีความประทับใจในความสวยงามเป็นอย่างมาก จึงขอฝากความระลึกถึงไปยังทั้งสองท่าน สำหรับประเทศไทยนั้นจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม APEC ในปี 2565 อีกทั้งตนได้เคยไปสหรัฐฯ หลายครั้ง และประทับใจในความรุ่งเรืองในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะความเป็นประชาธิปไตย และตนเป็น 1 ใน 4 คน ที่ได้รับเชิญจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ไปดูงาน 1 เดือน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ไปสหรัฐฯ และรู้สึกประทับใจ พร้อมทั้งยังได้กล่าวขอบคุณสหรัฐฯ ที่บริจาควัคซีนโควิด-19 ให้ประเทศไทยในช่วงเวลาที่ยากลำบาก โดยระยะเริ่มต้นนั้นประเทศไทยมีการบริหารจัดการได้ดี แต่ในระยะ 2 มีปัญหาและมีการติดเชื้อมาก แต่ประเทศไทยก็มีการฉีดวัคซีนได้ดีเป็น อันดับที่ 18 ของโลก ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณวัคซีนที่สหรัฐฯ บริจาคมาให้ และได้สอบถามเกี่ยวกับการบังคับฉีดวัคซีนในสหรัฐฯ ซึ่งศาลอุทธรณ์ให้ระงับคำสั่งดังกล่าวนั้น จะมีการดำเนินการไปยังศาลสูงหรือไม่ เนื่องจากสหรัฐคือแบบอย่าง ดังนั้น คำตัดสินของศาลสหรัฐฯ จะเป็นตัวอย่างแก่ประเทศอื่น ๆ ด้วย
นายชวน กล่าวต่อว่า ในส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศนั้นได้มีความสัมพันธ์ที่ยาวนานถึง 188 ปี ซึ่งนานที่สุดในภูมิภาคนี้ โดยตนเคยเดินทางไปสหรัฐฯ หลายครั้ง และมีความประทับใจในความรุ่งเรืองในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะความเป็นประชาธิปไตย ทั้งยังได้กล่าวถึงรัฐสภาไทยเป็นแห่งที่ 3 โดยแห่งแรกคือพระที่นั่งอนันตสมาคมในสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง แห่งที่สองก็ได้ยกเลิกไป และมาสร้างใหม่เป็นแห่งที่ 3 ที่นี่ โดยสถานที่แห่งใหม่นี้ให้ความสะดวก แต่สิ่งสำคัญคือการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิก ซึ่งสภามีหน้าที่ออกกฎหมาย จึงต้องเป็นตัวอย่างในการเคารพกฎหมาย และหลักนิติธรรม รวมทั้งข้อบังคับการประชุมซึ่งถือเป็นกฎหมายที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม แต่สมาชิกจำนวน 500 คน ต่างมีหลากหลายทางความคิดจึงต้องคอยควบคุมให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
นายชวน กล่าวว่า นอกจากนี้ ได้กล่าวถึงการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ที่ผ่านมา แม้ว่าสหรัฐฯ จะเป็นประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตยสูง แต่เป็นที่น่าประหลาดใจที่เกิดความขัดแย้งขึ้นเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 64 ที่ตนเห็นว่าความวุ่นวายในกระบวนการประชาธิปไตยเกิดจากพฤติกรรมของคน ไม่ว่าระบบจะเป็นแบบใด หากคนไม่ยึดแนวปฏิบัติก็จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีขึ้น จึงได้ข้อสรุปว่ากติกาที่ดีและคนที่ดีต้องไปด้วยกัน ถ้ากฎหมายดีแต่คนไม่ดีก็จะเกิดปัญหา ดังนั้น รัฐสภาไทยจึงได้มีโครงการบ้านเมืองสุจริต เพื่อต้องการให้คนรุ่นหลังเชื่อมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต มิฉะนั้นจะทำให้เกิดธุรกิจการเมืองขึ้น ซึ่งเรื่องนี้อาจไม่มีในสหรัฐฯ แต่ในประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับปัญหานี้และประชาธิปไตยในชีวิตจริงยังคงมีปัญหาที่ต้องฝ่าฟันด้วยความยากลำบาก อย่างไรก็ตาม ขอให้กำลังใจสหรัฐฯ โดยประเทศไทยมองว่าสหรัฐฯ เป็นตัวอย่างของประชาธิปไตย และเชื่อว่าเมื่อมีปัญหา กลไกกฎหมายสหรัฐฯ จะสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ โอกาสนี้ ขออวยพรให้ทุกท่านประสบความสำเร็จและขอให้ชนะการเลือกตั้งในทุกสมัย รวมทั้งได้กลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง
ด้าน ดร.อามี เบรา ได้กล่าวขอบคุณ นายชวน หลีกภัย ที่ได้ให้การต้อนรับ และขอบคุณที่ได้ส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐฯ และในฐานะสมาชิกรัฐสภา การพบปะหารือถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งช่วงเวลา 1.5 ปี ทั่วโลกได้เผชิญกับโรคโควิด-19 และหวังว่าโรคโควิด-19 จะผ่านไป เพื่อทั้งสองประเทศจะได้สานต่อความร่วมมือ สันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองต่อไป นอกจากนี้ สหรัฐฯ มีความยินดีที่จะร่วมมือกับรัฐสภาไทย เพื่อให้ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น ทั้งยังได้กล่าวถึงความประทับใจในความสวยงามของรัฐสภาไทย สำหรับรัฐสภาสหรัฐฯ นั้น มี ส.ส. จำนวน 435 คน ซึ่งย่อมมีความเห็นแตกต่างกัน การผ่านร่างกฎหมายแต่ละฉบับใช้เวลานาน แต่เมื่อวันศุกร์ที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่สภาสหรัฐฯ สามารถผ่านร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างรวดเร็ว
ดร.อามี กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ได้กล่าวถึงการบังคับฉีดวัคซีนในสหรัฐฯ ที่อาจไปถึงศาลสูงด้วย และกล่าวถึงระบบประชาธิปไตยที่มีการพัฒนา โดยทุกประเทศต้องเผชิญกับความท้าทาย มีภูมิต้านทานที่ดี เพื่อให้กลับมาแข็งแรง ซึ่งทั่วโลกได้จับตามองสหรัฐฯ โดยในช่วงการเลือกตั้งที่ผ่านมานั้นได้เห็นคนรุ่นใหม่ออกมาลงคะแนน และคนหนุ่มสาวออกมาแสดงความคิดเห็น แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งเมื่อ 6 ม.ค. 64 อย่างไรก็ตาม รัฐสภาสหรัฐฯ ได้รับรองผลการเลือกตั้ง จึงมั่นใจว่าประชาธิปไตยยังคงดำรงอยู่อย่างยั่งยืน และการพัฒนาประชาธิปไตยนั้นไม่มีที่สิ้นสุด และในฐานะ ส.ส. ซึ่งอยู่ใกล้ชิดกับประชาชนและเป็นเสียงของประชาชน ความซื่อสัตย์สุจริตจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อธำรงรักษาประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ โอกาสนี้ ได้กราบเรียนเชิญนายชวน หลีกภัย เดินทางเยือนสหรัฐฯ ด้วย