"ธรรมนัส"ฟังเสียงกำนันผู้ใหญ่บ้านสะท้อนปัญหาในพื้นที่

2021-11-08 01:00:50

 "ธรรมนัส"ฟังเสียงกำนันผู้ใหญ่บ้านสะท้อนปัญหาในพื้นที่

Advertisement

"ธรรมนัส"นำทีม 3 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ลุยพื้นที่ จ.น่าน รับฟังเสียงกำนันผู้ใหญ่บ้านสะท้อนปัญหาในพื้นที่

เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิก พรรคพลังประชารัฐ นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรคฯ นายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา นายปัญญา จีนาคำ ส.ส.แม่ฮ่องสอน นำทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.น่าน คือ นายสักก์สีห์ พลสันติกุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. น่าน เขต 1 นายพิชิต โมกข์ศรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.น่าน เขต 2 และนายฉัตรชัย จิตตรง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.น่าน เขต 3 ลงพื้นที่จ.น่าน พบกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กว่า 100 คน ซึ่งเป็นผู้นำชุมชนที่สามารถสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ได้อย่างตรงจุด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานที่พรรคพลังประชารัฐได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เข้าใจคนในพื้นที่ให้มากที่สุด ทำให้วันนี้พรรค สามารถเข้าไปช่วยเหลือผ่านกลไกในหน่วยงานภาครัฐในฐานะแกนนำของรัฐบาลจนประสบผลสำเร็จในการขับเคลื่อนนโยบายที่เข้าถึงประชาชนให้มากที่สุด


ร.อ.ธรรมนัส มองว่าผู้นำชุมชนคือจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ เพราะเป็นผู้ที่สะท้อนปัญหาที่จะทำให้เข้าถึงและเข้าใจความเดือดร้อนในชุมชนได้ดีที่สุด อย่างในวันนี้ทำให้ทราบว่าปัญหาหลักคือเรื่องที่ดินทำกินในเขตป่าสงวน ,ปัญหาการใช้น้ำและพื้นที่กักเก็บน้ำ รวมทั้งปัญหาเตาเผาขยะของหมู่บ้านสะปัน ที่พรรคพลังประชารัฐเชื่อว่าเป็นเรื่องที่สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยทีม ส.ส.ในพื้นที่ที่มีการทำงานด้วยความตั้งใจ สอดคล้องกับการทำงานเป็นทีมร่วมกับทางพรรคฯ ที่จะทำให้เห็นการพัฒนาเปลี่ยนแปลงเมืองน่านให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ในไม่ช้า

ด้านนางนฤมล กล่าวว่า ทุกคนในพรรคพลังประชารัฐ มีความต้องการที่จะร่วมขับเคลื่อนพัฒนาเมืองน่านไปพร้อมกันกับประชาชนในพื้นที่ ด้วยการผลักดันนโยบายที่เป็นรูปธรรมเพื่อประโยชน์ในกลุ่มที่หลากหลาย ตรงความต้องการ ทั้งในเรื่องของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อให้สิทธิแต่ละกลุ่มมีความเท่าเทียมและสอดคล้องกับสภาพของแต่ละกลุ่ม โดยไม่เลือกปฎิบัติ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวิสัยทัศน์ของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 3 เขต ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกันที่ต้องการให้เมืองน่านเป็นเมืองที่พัฒนาและก้าวหน้าในอนาคต บนพื้นฐานของความเท่าเทียมกัน