จากจุดเริ่มต้นจากการประกวดเป็นเงาเสียง หมู พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ จนกลายเป็นตลกสุดฮอตขวัญใจคนไทยที่กำลังมาแรงในตอนนี้ สำหรับ "ดาว ขำมิน" ที่มีท่าทางการพูดอาการมึนๆเป็นเอกลักษณ์ จนหลายคนสงสัยว่าการแกล้งมึน หรือ มึนจริง แต่ก็ทำให้กลายเป็นเสน่ห์ที่ใครหลายคนจดจำ ดาว ขำมิน ด้วยท่าทางมึนๆแบบนี้ เขาถึงได้ความรักดีๆที่เป็นรักแท้สู้ทนความลำบากมาด้วยกัน
เมื่อได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ดาว ขำมิน ที่ได้ควงคู่ชีวิต ปู มาเปิดเรื่องราวในชีวิตพร้อมความรักแบบทุกซอกทุกมุมในใจ เพราะอุ่นใจที่ได้มานั่งคุยมานั่งเล่าที่นี่เป็นที่แรกแบบหมดเปลือก ถึงที่มาของความเบลอเป็นเหตุสังเกตได้เพราะมาจากการชกมวย พร้อมเล่าถึงครอบครัวทั้งบ้านมีเงินอยู่ 6 บาท จึงยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองหลุดออกจากความยากจน และความรักเพราะรักมาก ถึงได้ไล่ให้แฟนไปเจอสิ่งที่ดีกว่าไม่อยากให้อยู่ทรมานความจนด้วยกัน แต่เหมือนเคราะห์ซ้ำชีวิตแสนลำบากแล้ว ตั้งใจทุ่มเทหาเงินหวังมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่กับโดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ตอนที่เป็นนักมวยชื่ออะไร ?
ดาว ขำมิน : ดาว เจริญครับ แต่ไม่มีอะไรเจริญเลยเพราะไม่เคยชนะเลย ผมเลยคิดในใจว่าเป็นนักมวยสายบุญมากกว่าแล้วเท่าที่ต่อยมาก็โดนแต่บริเวณหน้ากับหัวเราอย่างเดียวเลย บางทีก็เตะหัวบ้าง ต่อยหัวบ้างเลยทำให้มีผลต่อร่างกายเราปัจจุบันคือจะเบลอส่วนใหญ่
ชีวิตของเราทั้งหมดจริงๆก็คือ พยายามที่จะหลุดออกจากวงจรของความยากจนให้ได้ ?
ดาว ขำมิน : ความยากจนเป็นสิ่งที่ทรมานสำหรับครอบครัวผมนะ (เสียงสั่น) จากที่ผมเคยอยู่บ้านเช่าเราก็โดนไล่ทั้งบ้านมีเงินเหลือแค่หกบาทนั่งทานข้าวกันอยู่แล้วบ้านมันทรุดลงแล้วเงินหกบาทตกลงไปผมก็พยายามคว้าแล้วแต่ก็จมลงไปกับน้ำ มันกลายเป็นภาพที่ติดอยู่กับผมตลอดมาเลย
ในช่วงลำบากที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนทุกอย่างเพื่อที่จะทำให้เรามีเงินให้ได้ช่วงนั้นมีความรักผ่านเข้ามาบ้างไหม ?
ดาว ขำมิน : เป็นความรักตลาดนัดครับ พอเรารู้ว่าเขาขายของอยู่ที่ตลาดนัดเราก็ไปเดินซื้อของทุกวัน
ภรรยา : เราก็มองๆเขาเหมือนผู้ชายคนนี้ไม่ค่อยเต็ม เหมือนเขาบ้าๆเราก็ลองคบดูว่าเขาอาจจะเป็นคนดีก็ได้ ถึงเขาจะเป็นบ้าๆเราก็ลองศึกษาดูอะไรอย่างนี้ค่ะ พอคบกันมาดูเขาก็เป็นคนดี
ตอนที่ปูบอกว่าลองคบกันไหมลองเป็นแฟนกันไหมตอนนั้นเราคิดอะไรอยู่ ?
ดาว ขำมิน : ก็แอ็คอยู่พักหนึ่งครับ ก็ดีใจๆแต่ว่าเราเก็บอาการ
แต่ครั้งหนึ่งเขาก็บอกว่าให้เราไปหาคนอื่นที่ดีกว่า ?
ปู : ใช่ค่ะ ตอนนั้นไม่มีเงินเลยมีเงินอยู่กันแค่ 100 บาทเองเขาก็บอกว่า ปู ไปจากเขาได้ไหม เลิกกับเขาได้ไหมเขาบอกให้เราไปหาคนใหม่ที่ดีกว่าเขา
ดาว ขำมิน : อย่ามาลำบากกับเราเลย อย่ามาต้องอดมื้อกินมื้อดีกว่า
ปู : เราก็บอกว่าเราไม่ไปจะอยู่กับเขาจะทนอยู่กับเขาเพราะเขาคือคนที่เราเลือกแล้ว ไม่มีกินก็อดด้วยกัน
ดาว ขำมิน : พอเราได้ฟังเขาพูดคำนั้นคือ เราได้แต่กอดเขาแล้วก็ร้องไห้ (เสียงสั่น) ตอนนั้นสมองมีแต่หางานกำลังคุยกันอยู่มีคนเอาโทรศัพท์เอามาขาย ถามว่าขายได้เท่าไหร่ก็ตีราคาได้ 800 บาท พอขายเสร็จเขาก็หยิบโทรศัพท์นั่นมาเช็ดแล้วก็เปลี่ยนกรอบใหม่แล้วสักพักหนึ่งก็มีคนมาซื้อโทรศัพท์เครื่องนั้นเขาก็บอกว่า 2,400 บาท ผมเอากีตาร์วางเลยแล้วเดินไปหาเขาแล้วถามว่าขอลุ้นได้ไหม เขาก็บอกว่าได้เอามาสิ 35,000 บาท ผมก็เลยยอมไปกู้แล้วพอครบเดือนก็เลยถามมาว่าเงินที่ลงหุ้นไปยังไง เขาก็บอกว่าอันนั้นไม่ได้หุ้นนะ ยืม งั้นเอาโทรศัพท์ 30 เครื่องนี้ไปแทนแล้วกันเงินไม่มีให้ เราก็รู้สึกว่ายังดีที่ได้โทรศัพท์มาแต่ปรากฏว่าพอเอามาคือเครื่องนี้ก็เปิดไม่ได้เครื่องนี้ก็ไม่ติด สรุป ใช้ได้แค่สองเครื่องโดนหลอกอีก
