ปิดคดีฆ่า "เอ็กซ์" ศาลฎีกาลดโทษให้อดีตแม่ยายเอ็กซจำคุก 25 ปี

2021-10-08 15:45:53

ปิดคดีฆ่า "เอ็กซ์" ศาลฎีกาลดโทษให้อดีตแม่ยายเอ็กซจำคุก 25 ปี

Advertisement

ศาลฎีกาพิพากษาลดโทษให้อดีต "แม่ยายเอ็กซ์" จ้างวานมือปืนฆ่าเหลือจำคุก 25 ปี 

เมื่อวันที่ 8 ต.ค.  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญามีนบุรี ถนนสีหบุรานุกิจ ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีความผิดต่อชีวิต จ้างวานฆ่า "เอ็กซ์ จักกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม" อายุ 40 ปี อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติ หมายเลขดำ อ.383/57 ที่อัยการศาลจังหวัดมีนบุรี และนายมานพ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติ บิดา เป็นโจทก์ร่วมฟ้อง นายจีรศักดิ์ หรือจี กลิ่นคล้าย มือปืน เป็นจำเลย ที่ 1 น.ส.สุรางค์ ดวงจินดา อายุ 79 ปี มารดา พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือหมอนิ่ม ภรรยาเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ เป็นจำเลย ที่ 2 หมอนิ่ม พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ เป็นจำเลยที่ 3 นายสันติ ทองเสม อายุ 35 ปี หรือทนายอี๊ด ทนายความ เป็นจำเลยที่ 4 และนายธวัชชัย หรืออ้น เพชรโชติ อายุ 38 ปี คนขี่รถจักรยานยนต์ จำเลยที่ 5 ร่วมกันเป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น  จ้างวานฆ่าผู้อื่น และความผิดตาม  พ.ร.บ.อาวุธปืน ขณะที่นางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม มารดา เอ็กซ์ จักกฤษณ์ ได้ยื่นคำร้อง ขอให้พวกจำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 4.4 ล้านบาทด้วย

โจทก์ระบุว่า เมื่อระหว่างเดือน ส.ค.-19 ต.ค.56 จำเลยที่ 2-4 ร่วมกันจ้างวานให้จำเลย 1 กับพวกที่หลบหนีใช้อาวุธปืนฆ่านายจักรกฤษณ์ตามร่างกายหลายนัด ขณะอยู่บนรถยนต์หรูยี่ห้อปอร์เช่ สีดำ จนถึงแก่ความตาย บริเวณหน้าวัดบางเพ็งใต้ ถนนสุขาภิบาล 3 ก่อนพากันหลบหนีไป  ชั้นสอบสวนและชั้นศาล พญ.นิธิวดี มารดา และนายทนายความ ให้การปฏิเสธ 

ต่อมาวันที่ 19 ธ.ค.59 ศาลจังหวัดมีนบุรีได้อ่านคำพิพากษาให้ประหารชีวิตสถานเดียว จำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 4 ฐานร่วมกันใช้จ้างวานฆ่าผู้อื่น ขณะที่จำเลยที่ 1 และ 5 ให้จำคุกตลอดชีวิต ส่วนมารดาหมอนิ่ม พิพากษายกฟ้อง และให้จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3-5 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 2.5 ล้านบาท แก่ผู้ร้องด้วย

วันที่ 7 ส.ค.61 ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาแก้ให้ยกฟ้อง พญ.นิธิวดี จำเลยที่ 3 แต่ให้ลงโทษประหารชีวิตมารดาฐานจ้างวานให้ฆ่าผู้ตาย  เนื่องจากศาลเห็นว่า น.ส.สุรางค์ ยังโกรธแค้นที่ผู้ตายมักทำร้ายร่างกาย พญ.นิธิวดี ซึ่งเป็นบุตรสาวคนเดียว และทำร้ายหลานสาวได้รับบาดเจ็บหลายครั้งหลายหน และเชื่อว่าผู้ตายไม่สามารถแก้ไขพฤติกรรมได้ทั้งนี้คำให้การของน.ส.สุรางค์ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาบ้างลดโทษให้  1 ใน 3 คงจำคุกตลอดชีวิต  พร้อมให้จำเลยที่ 1,2, 4, และ 5 ร่วมกันชดใช้เงินจำนวน 2.5 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ให้กับโจทก์ร่วมและผู้ร้องด้วย

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว เห็นว่า ฎีกาจำเลยที่ 1 และที่ 2 ที่ต่อสู้ในประเด็นการร่วมจำเลยที่ 4 และที่ 5 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 2.5 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยจนกว่าจะชำระเสร็จให้กับโจทก์ร่วมและผู้ร้องนั้น ฟังไม่ขึ้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมชดใช้ตามจำนวนดังกล่าวนั้นชอบด้วยเหตุผลแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย และฎีกาข้ออื่นที่ต่อสู้ประเด็นการรับฟังคำให้การพยานที่มาลงโทษจำเลย ก็ฟังไม่ขึ้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 และที่ 2 ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย

สำหรับจำเลยที่ 2 ที่ขณะเกิดเหตุเป็นหญิงมีอายุถึง 72 ปี และบัดนี้มีอายุเกือบ 80 ปีแล้ว ไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน จึงเข้าลักษณะของผู้กระทำความผิดที่ตกอยู่ในความทุกข์อย่างสาหัส มีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา  ที่ศาลอุทธรณ์ลดโทษให้แม่หมอนิ่มจำเลยที่ 2 เพียง 1 ใน 3 และคงจำคุกจำเลยที่ 2 ตลอดชีวิตด้วยเหตุเพียงคำให้การชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ศาลฎีกายังไม่เห็นพ้องด้วย เห็นควรลดโทษให้จำเลยที่ 2 อีก ศาลฎีกาจึงพิพากษาแก้เป็นว่า คำให้การชั้นสอบสวนของ น.ส.สุรางค์ จำเลยที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา และกระทำความผิดเพราะตกอยู่ในความทุกข์อย่างสาหัส มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ประกอบมาตรา 52 (2) คงลงโทษจำคุกไว้ 25 ปี