รพ.เผยอาการ "น้องจีน่า" แข็งแรงดี แค่อ่อนเพลีย ต้องให้พักผ่อนเต็มที่ ด้าน "อาผะ"ให้การวกวนซัดทอดลูกเลี้ยง
จากกรณี “น้องจีน่า” ด.ญ.วัย 1 ขวบ 11 เดือน หายตัวปริศนาจากบ้านพัก หมู่บ้านห้วยฝักดาบ หมู่ 16 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งตั้งอยู่กลางหุบเขาและล้อมรอบไปด้วยป่าไม้ ในช่วงหัวค่ำ เวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่ นายสุริยะ วงศ์ศิลารุ่ง อายุ 43 ปี ผู้เป็นพ่อขี่จักรยานยนต์นำขยะไปทิ้งที่จุดทิ้งขยะของหมู่บ้าน ห่างไปประมาณ 2 กม. ส่วน น.ศ.มาลี ปะสี อายุ 23 ปี มารดา ทำอาหารอยู่ในครัว โดยที่ลูกชายคนโตวัย 4 ขวบ เล่นอยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ต่างระดมสรรพกำลังค้นหาอย่างต่อเนื่องแต่ไม่พบตัว ต่อมามีการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัย คือ นายอาผะ หรือ เสี่ยว อายุ 44 ปี ไม่มีสัญชาติ ซึ่งรับสารภาพ อ้างว่า อุ้มน้องไปปล่อยที่หน้าถ้ำในป่าลึกเพื่อเซ่นไหว้เจ้าที่ ผีป่า ห่างจากบ้านน้องจีน่าไปประมาณ 1.5 กม. แต่จากการค้นหาไม่พบตัวน้องจีน่าที่บริเวณหน้าถ้ำแต่อย่างใด
เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เช้าก่อนพบตัวน้องจีน่า พล.ต.ท.ประจวบ วงค์สุข ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5 พล.ต.ต.พิเชษฐ์ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รอง ผวจ.เชียงใหม่ นายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม นายอำเภอแม่แตง พ.ต.อ.ณฐภณ แก้วกำเนิด ผกก.สภ.แม่แตง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปกครอง ทหาร ตชด. กู้ภัย และอื่นๆกว่า 200 นายปูพรมเพื่อตามหาน้องจีน่า ณ บ้านห้วยฝักดาบ ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
โดยก่อนการประชุมเพื่อปูพรมตรวจค้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนปากคำนายเสี่ยว หรือนายอาผะ อายุ 44 ปีซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในข้อหาเป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง และเป็นผู้ต้องสงสัยเพราะเป็นเพื่อนสนิทของพ่อน้องจีน่า และสามารถอุ้มน้องจีน่า และเป็นคนสนิทในหมู่บ้าน โดยพี่ชายน้องจีน่า เคยให้การกับตำรวจว่านายเสี่ยว เป็นคนนำน้องจีน่าไป โดยจากการเค้นสอบปากคำนานจนในที่สุดนายเสี่ยว ก็ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนอุ้มน้องจีน่า ไปเองโดยอาศัยจังหวะที่พ่อน้องจีน่า ออกไปทิ้งขยะ และน้องจีน่า อยู่หน้าบ้านคนเดี่ยว จึงอุ้มน้องจีน่า ขึ้นรถจยย. ไปโดยสาเหตุที่ต้องทำเพราะถูกผีเข้าสิง แล้วบอกให้นำเด็ก ไปส่งให้ผีเจ้าป่าเจ้าเขา ที่บนดอย ตนจึงนำน้องจีน่า ไปทิ้งไว้บนดอยโดยไม่ได้ทำร้ายร่างกายเด็กเลยชักนิด
หลังการสอบสวนปากคำทางเจ้าหน้าที่จึงเปลี่ยนแผนการปูพรมค้นหา เป็นการนำตัวนายเสี่ยว เดินขึ้นเขาห่างจากหมู่บ้านราวๆ 3 กิโลเมตร ไปจุดหุบเหว ที่นายเสี่ยว ให้การว่ามาทิ้งน้องจีน่า ไว้จุดนี้โดยทางเจ้าหน้าที่ได้โรยตัวลงไปในถ้ำลึกกว่า 30 เมตร และปูพรมค้นหานานกว่า 1 ชั่วโมงแต่ก็ไม่พบตัว ไม่มีวี่แววน้องจีน่า ขณะนั้นเองบนดอยเหนือหมู่บ้านที่เป็นม่อนดอยติดกับที่นายเสี่ยว บอกก็มีชาวบ้านซึ่งเป็นญาติของมารดาน้องจีน่า ที่ได้เดินป่าค้นหาน้อง ได้แจ้งมาว่าพบเจอน้องจีน่า อยู่ในกระท่อม บนเนินขน ห่างจากหมู่บ้านราวๆ 2 กิโลเมตร ทางเจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังไปจุดดังกล่าว แล้วก็พบเจอน้องจีน่า นอนอ่อนเพลียอยู่ในกระท่อมดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้ปฐมพยาบาลน้องเบื้องต้นทั้งให้นม น้ำ เช็ดตัว ก่อนจะอุ้มน้องเดินลงจากดอย แล้วมาต่อรถเจ้าหน้าที่กู้ภัย พามาส่งที่ รพ.แม่แตง ประเมินอาการ
ทั้งนี้ทาง รพ.แม่แตง บอกว่าน้องจีน่า อาการโดยรวมแข็งแรงดี แต่แค่ร่างกายอ่อนเพลีย ต้องตรวจร่างกายและให้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ทางเจ้าหน้าที่จึงนำน้องจีน่า พร้อมมารดา ส่ง รพ.นครพิงค์ ให้นอนพักรักษาอาการก่อน
พล.ต.ท.ประจวบ วงค์สุข ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่าในคดีที่เกิดขึ้นจากการสอบสวนปากคำผู้ต้องหาคือนายเสี่ยว ให้การรับสารภาพว่าว่าถูกผีเข้าสิง และให้นำเด็กไปสังเวยเจ้าป่าเจ้าเขา ตรงนี้ก็เป็นคำให้การของผู้ต้องหา ที่ให้การไว้ และจากการนำกำลังไปตรวจค้นก็พบว่าจุดที่นายเสี่ยว บอก ไม่พบเจอน้อง แต่ไปพบเจอน้องอีกจุดหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างกันไปราวๆ 2 กิโลเมตร ซึ่งเหนืออื่นใดเรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนนี้คือเราเจอน้อง น้องปลอดภัย นี้คือความสุขของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่มาร่วมปฏิบัติภารกิจนี้ ส่วนการหายตัวไปของน้องจีน่า ยังต้องมีการสืบสวนสอบสวนเพราะเชื่อว่าคดีนี้มีเงือนงำ ผบช.ภ.5 กล่าวในที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากเจอน้องจีน่า ทางคณะตำรวจ ปกครอง ได้มาร่วมประชุมกันที่ สภ.แม่แตง โดยในที่ประชุม ทางผบช.ภ.5 ได้สั่งการให้การสอบสวนปากคำนายเสี่ยว ใหม่ทั้งหมดเพราะเชื่อว่าจะมีผู้ร่วมขบวนการ เรื่องนี้อาจจะเป็นการลักพาตัว เรียกค่าไถ่ หรือแค้นส่วนตัว ต้องนี้ต้องคลี่ปมให้ละเอียด เพราะแผนตอนแรกของตำรวจจะดำเนินการในวันนี้คือ ปูพรมค้นทุกบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ เพราะเชื่อว่าน้องยังอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ แต่ก็มีคนไปเดินป่าแล้วไปเจอน้อง แล้วน้องก็ปลอดภัยสุขภาพแข็งแรง ใส่เสื้อผ้าชุดเดิมในวันที่หายไป ไม่มีอาการหิว เหมือนมีคนดูแลตลอด แม้ร่างกายน้องจะมีร่อยรอยขีดข่วนของการเดินป่าก็เป็นแค่แผลเล็กน้อย ทุกอย่างเหมือนมีการจัดฉากนำเด็กมาคืน
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงสอบปากคำนายเสี่ยว หรือ นายอาผะ อายุ 44 ปี อย่างเคร่งเครียด เบื้องต้นรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง แต่ยังให้การสับสนวกวนไม่ทราบสาเหตุและแรงจูงใจที่แน่ชัด อีกทั้งยังซัดทอดอ้างว่าก่อเหตุไป เนื่องจากถูกลูกเลี้ยง ซึ่งเป็นลูกสาวของภรรยาเป็นผู้สั่งการให้ก่อเหตุ ทำให้ลูกสาวของภรรยาต้องเดินทางเข้าให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ โดยยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นใดๆ ทั้งสิ้น เพราะอาศัยอยู่กันคนละที่กับนายเสี่ยว และมีพยานยืนยัน พร้อมให้ข้อมูลว่าก่อนหน้านี้นายเสี่ยวเคยไปอาศัยอยู่ที่บ้านของลูกเลี้ยง แต่เนื่องจากนายเสี่ยวมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ ชอบดื่มสุราและเมาอาละวาด จึงไล่นายเสี่ยวให้ออกจากบ้านกลับไปอยู่บ้านที่บ้านห้วยฝักดาบ ตั้งแต่เมื่อประมาณ 1 เดือนที่แล้ว
ด้าน ลูกเลี้ยงนายเสี่ยวระบุว่า ก่อนหน้านี้ตำรวจพาตัวนายเสี่ยวไปที่บ้านของตน เพราะถูกซัดทอดว่าเป็นผู้บงการ จึงเดินทางมาให้ปากคำ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้บงการตามที่ถูกกล่าวหา เพราะช่วงเกิดเหตุตนไปทำงานอยู่ในพื้นที่อื่น และเพิ่งกลับมาวันนี้