"พชร" ขีดเส้นสอบ "เนตร" ปมสั่งไม่ฟ้อง "บอส" เสร็จใน ก.ค.

2021-07-14 18:10:37

"พชร" ขีดเส้นสอบ "เนตร" ปมสั่งไม่ฟ้อง "บอส" เสร็จใน ก.ค.

Advertisement

"พชร" ขีดเส้นสอบ "เนตร" ปมสั่งไม่ฟ้อง "บอส" เสร็จสิ้นภายใน ก.ค. เผย  "ปรเมศวร์" เมาแล้วขับผิดไม่ร้ายแรงแค่ว่ากล่าวตักเตือน  

เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่สำนักงานอัยการสูงสุด  นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ(ก.อ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม ก.อ.ครั้งที่ 7/2564 โดยมีวาระน่าสนใจเกี่ยวกับผลการสอบสวนวินัย นายเนตร นาคสุข อดีตรอง อสส. กรณีสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ลูกชายนักธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง ผู้ต้องหาคดีขับรถยนต์ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2555 ว่า  ที่ผ่านนายเนตรได้มาให้ความร่วมมือในการสอบสวนโดยให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการสอบสวนชุด นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ กับคณะ ซึ่งได้พิจารณาร่วมกับรายงานการสอบสวนของอัยการสูงสุด 2 สำนวนที่ได้รับมอบมาจากคณะทำงานที่ได้กลับความเห็นเป็นสั่งฟ้องนายวรยุทธใหม่อีกครั้งกับสำนวนที่ได้มีการสอบนายเนตรเบื้องต้นที่ได้มีการพิจารณาไว้เเล้ว

นายพชร กล่าวต่อว่า ส่วนหลักฐานพยานอื่นๆ นายกายสิทธิ์ก็ได้รวบรวมใกล้เสร็จเเล้ว โดยจะมีการขยายผลไปถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องที่มีการอ้างว่าเป็นอัยการคนหนึ่งดังกล่าว เพื่อจะได้สอดคล้องกับการสอบสวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่ระบุว่ามีการตั้งเรื่อง เเต่การสอบนายเนตรกับอัยการอีกคนหนึ่งอาจจะต้องเเยกสอบ เพราะเรื่องนายเนตรเป็นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ในการสั่งคดี ว่า สั่งคดีเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ เเละสั่งคดีโดยชอบหรือไม่ ส่วนอัยการอีกคนเป็นเรื่องการกระทำนอกเหนืออำนาจหน้าที่ของอัยการอย่างเรื่องการเปลี่ยนเเปลงความเร็วรถ ก็จะต้องไปสอบสวนร่วมกับบุคคลอื่นด้วย บทลงโทษก็จะเเตกต่างกัน เป็นคนละส่วน เพราะถ้าไม่เเยกการสอบสวนนายเนตรก็จะไม่เสร็จสิ้นเสียที เเต่พยายามกำชับนายกายสิทธิ์เรื่องการสอบอัยการที่มีส่วนเปลี่ยนเปลี่ยน ลงความเร็ว ให้ร่วมมือกับ ป.ป.ช.เพื่อให้ผลสอบรัดกุมมากขึ้น กรณีนายเนตรอาจจะต้องสรุปผลสอบออกมาก่อนโดยตนให้เวลาภายในวันที่ 31 ก.ค.นี้ ส่วนอัยการอีกคนก็ให้สอบโดยเร็ว ซึ่งนายกายสิทธิ์เองก็ไม่ได้รู้สึกหนักใจ

ต่อข้อถามถึงกรณีนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการสำนักงานอาญาธนบุรี ที่ได้ถูกศาลพิพากษาความผิดเมาแล้วขับ นายพชร กล่าวว่า วันนี้ก็มีการพิจารณากันเรื่องนี้ซึ่ง ทาง อสส.ได้เสนอต่อที่ประชุม ว่าเป็นความผิดที่ไม่ร้ายแรง แต่เนื่องจากนายปรเมษฐ์เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ การที่เมาแล้วขับเป็นสิ่งที่ไม่ควรประพฤติอย่างยิ่ง จึงให้จัดทำบันทึกเพื่อว่ากล่าวตักเตือนและกำชับไม่ให้ปฏิบัติตัว ลักษณะดังกล่าวและประพฤติตามคำสั่งศาล พิพากษาลงโทษ ไม่ว่าจะเป็นการรอลงอาญาหรือการรายงานตัว การบำเพ็ญประโยชน์ อย่างเคร่งครัด ส่วนเรื่องการพิจารณาตำแหน่งก็ยังดำเนินการตามปกติเนื่องจากพิจารณาแล้วว่าเหตุเมาแล้วขับนั้นไม่ได้เป็นพฤติกรรมที่เสื่อมเสียร้ายแรง เจตนาทุจริต อีกทั้งทางอัยการสูงสุดได้ว่ากล่าวตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร ก็เห็นควรเสนอบัญชีรายชื่อเพื่อพิจารณาโปรดเกล้าฯตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้จะมีการนัดประชุม ก.อ.ครั้งต่อไปวันที่ 18 ส.ค.นี้