"เพชร กรุณพล" ซัดข้อมูลไม่ยั้ง "น็อต วรฤทธิ์" ถึงกับหงายหลังตึง

2021-07-12 17:15:20

"เพชร กรุณพล" ซัดข้อมูลไม่ยั้ง "น็อต วรฤทธิ์" ถึงกับหงายหลังตึง

Advertisement

แทบจะไม่ใช่เพื่อนกันแล้ว แทบจะเป็นคู่กัดกันแล้ว "เพชร กรุณพล" ซัดข้อมูลไม่ยั้ง "น็อต วรฤทธิ์" ถึงกับหงายหลังตึง



ดราม่าวัคซีนโควิดในประเทศไทยยังคงเป็นที่พูดถึงและวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ในวงกว้างโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ล่าสุด กรณีความเห็นต่างในเรื่องของวัคซีนก็เกิดขึ้นกับสองนักแสดงมากความสามารถแถมยังมีความสนิทชิดเชื้อจนเรียกกันได้ว่าเป็นเพื่อนแท้ อย่าง "เพชร กรุณพล" และ "น็อต วรฤทธิ์" และประเด็นเพื่อนรักหักกันครั้งนี้ ก็ส่งให้ แฮชแท็ก #แบนน็อตวรฤทธิ์ ดีดตัวเองขึ้นไปติดท็อป 5 เทรนด์ทวิตเตอร์ไปเสียแล้ว 






สืบเนื่องจากกรณีที่ พิธีกร - นักแสดงฝีมือเด่น อย่าง "น็อต วรฤทธิ์" ได้แชร์ถึงเหตุผลที่รัฐไม่ปล่อยให้เอกชนนำเข้าวัคซีนกันเอง โดยให้เหตุผลว่า เอกชนไม่กล้านำเข้า เพราะไม่มีความสามารถพอที่จะรับผิดชอบเรื่องผลข้างเคียงของวัคซีนได้ไหว แต่รัฐบาลจัดซื้อในรูปแบบ Emergency Use ซึ่งมีการตรวจสอบขั้นต้นแล้วว่าจะมีผลระคายเคืองที่ต่ำ หรือเมื่อเกิดระคายเคืองนั้นยังสามารถแก้ใขสถานการณ์ได้ ซึ่งในการนี้นักแสดงหนุ่ม "เพชร กรุณพล" ผู้เป็นเสมือนเพื่อนรักเพื่อนสนิท ก็ได้เข้ามาหย่อนเหตุผลต่างๆ พร้อมทั้งดึงสติเพื่อน จนกลายเป็นวิวาทะที่ทำเอาชาวโซเชียลแทบจะหยุดวิจารณ์ไม่ได้ ซึ่งหลายคนมองว่าถึงแม้จะเป็นเพื่อนกันแต่หากมีสิ่งที่คิดเห็นไม่ตรงกัน ก็สามารถพูดคุยทำความเข้าใจกันได้






ทั้งนี้ จากโพสต์ดังกล่าว "เพชร กรุณพล" ได้เข้ามาคอมเมนต์โดยบอกว่า

"นี่คือสักแต่ว่าเขียนเอาใจรัฐบาลใช่มะ" พร้อมกับนำข้อมูลมาอธิบายเป็นข้อๆ ถึง 8 ด้วยกัน และลงท้ายว่า "กูเข้ามาเสือXมึXแค่นี้แหละนะ" ซึ่งในส่วนของ "น็อต วรฤทธิ์" ก็ได้เข้ามาตอบกลับคอมเมนต์ของ เพชร กรุณพล ว่า "เรื่องของมึx"





อย่างไรก็ตาม ชาวทวิตเตอร์ก็ได้ถาม "เพชร" ถึงเหตุผลที่ชิลล์มากในการอธิบาย และไม่ตัดขาดความเป็นเพื่อน โดย "เพชร" ได้ให้เหตุผลว่า

"ตอนที่พี่อกหักสติหลุดก็มีเขานี่แหละครับที่อยู่ข้างๆ ไม่ยอมไปไหน คอยดึงสติ แล้วเวลาที่เขาเป๋ไปแบบนี้จะให้พี่นิ่งดูดาย พี่ทำไม่ได้หรอกครับ อย่างน้อยทยอยให้ข้อมูล รับบ้าง ไม่รับบ้าง ก็ยังดีกว่าไม่ให้อะไรเขาเลย"





งานนี้เรียกว่ามีชาวเน็ตหลายคนได้แห่เข้าไปแสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กหนุ่ม "น็อต" กันมากมายมหาศาลจนถึงขั้นที่เจ้าตัวต้องปิดการคอมเมนต์ไปเลยทีเดียว ซึ่งกรณีนี้ส่งให้ แฮชแท็ก #แบนน็อตวรฤทธิ์ ทะยานขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ไปแบบไม่ต้องสงสัย