"อนันต์” แจงปมเสนอฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้ ส.ส.-ส.ว. เป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน ชี้เป็นเพียงการยกข้อมูลทางวิชาการอธิบาย
เมื่อวันที่ 8 ก.ค. นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวมติที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎร วิป 4 ฝ่าย ว่า จะมีการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มที่ 3 ให้กับสมาชิกรัฐสภา ส.ส. และ ส.ว.จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงนั้น ว่า ภายหลังการประชุมวิป 4 ฝ่ายเมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แถลงมติที่ประชุมต่อสื่อมวลชนในประเด็นสำคัญๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของรัฐสภา ทั้งในส่วนของการประชุมประจำสัปดาห์ภายใต้มาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด การงดการประชุมของคณะกรรมาธิการสามัญและวิสามัญที่ไม่มีความเร่งรีบในช่วงนี้ การลดจำนวนผู้ติดตาม ส.ส.และผู้เข้ามาในพื้นที่รัฐสภาเท่าที่จำเป็น ตลอดจนการตรวจหาเชื้อ rapid test และ สวอป ให้กับ ส.ส.และ ส.ว.เป็นประจำทุกสัปดาห์ และในช่วงท้ายของการแถลงได้เล่าถึงการวิเคราะห์ภาพรวมสถานการณ์และความสำคัญของการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่เป็นข้อมูลทางวิชาการ แต่ทั้งนี้ตนอาจจะพูดตกไป ไม่ได้พูดว่าสำหรับประชาชนทุกคน และไม่ได้พูดเจาะจงไปที่ ส.ส. หรือ ส.ว.เช่นกัน
“ถ้าไปย้อนดูคลิปการให้สัมภาษณ์ของผมในวันนั้น ก็จะเห็นว่า ผมได้เล่าถึงการหารือในที่ประชุมที่มีข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า การฉีดวัคซีนแม้จะครบ 2 เข็มแล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไป 2-3 เดือนภูมิคุ้มกันอาจจะลดเหลือเพียง 40-50% และหากระยะเวลาผ่านไปอีกภูมิคุ้มกันก็ยิ่งจะลดน้อยลงไปอีกเหมือนไม่ได้รับการฉีด ดังนั้นทุกคนจึงควรต้องฉีดบูสเตอร์เข็ม 3 ซึ่ง ส.ส. ที่เป็นแพทย์ในที่ประชุมวันนั้น เป็นคนให้ความรู้ในส่วนนี้เอง” นายอนันต์กล่าว
นายอนันต์ ยังกล่าวต่อถึงกรณีที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายในที่ประชุมสภาวันนี้ ที่มีการตำหนิ ส.ส.บางราย ว่า ดักดาน หิวแสง จากกรณีข่าวการเสนอฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้แก่ ส.ส. และ ส.ว.นั้น ว่า ตนได้พูดคุยกับ นพ.ชลน่านแล้ว ได้มีการทำความเข้าใจว่าที่ นพ.ชลน่านตำหนิไปนั้น ไม่ได้หมายถึงตน เพราะ นพ.ชลน่าน ได้เข้าร่วมประชุมวิป 4 ฝ่ายด้วย และเข้าใจในประเด็นที่ตนแถลงข่าวว่าเป็นเรื่องการวิเคราะห์ภายในของที่ประชุมวิป 4 ฝ่าย แต่ นพ.ชลน่าน ชี้แจงว่า ตำหนิ ส.ส.บางรายที่นำประเด็นนี้ไปขยายความต่อ จนเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนมากยิ่งขึ้น ทั้งที่ไม่เกิดประโยชน์ และทำให้รัฐสภาเสื่อมเสียจากความเข้าใจผิดของสังคม ซึ่งสื่อก็น่าจะทราบว่าเป็นใครบ้างที่ชอบหิวแสง ตนกับ นพ.ชลน่านมีความรักใคร่กันดี ร่วมทำงานในสภา ในคณะกรรมาธิการฯกันมานาน นอกจากนี้ตนก็ได้ชี้แจงกับนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ซึ่งเป็นประธานในที่ประชุมวิป 4 ฝ่ายแล้วเช่นกัน