คพ.ตรวจคุณภาพอากาศสมุทรปราการอยู่ในเกณฑ์ดีมาก

2021-07-07 16:25:08

คพ.ตรวจคุณภาพอากาศสมุทรปราการอยู่ในเกณฑ์ดีมาก

Advertisement

คพ.ตรวจเฝ้าระวังมลพิษโรงงานหมิงตี้ เคมีคอล คุณภาพอากาศสมุทรปราการอยู่ในเกณฑ์ดีมากไร้สารสไตรีนและฟอร์มัลดีไฮด์



เมื่อวันที่ 7 ก.ค. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ระเบิดและเพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟมและพลาสติก บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งโรงงานถูกเพลิงไหม้พังถล่มเสียหายทั้งหมด สร้างความเสียหายให้กับชุมชนและประชาชนโดยรอบ และนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมาย คพ. ร่วมกับหน่วยงานใน ทส. ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ เพื่อยืนยันได้ว่าพี่น้องประชาชนจะมีความปลอดภัย


นายอรรถพล กล่าวว่า ล่าสุดวันนี้ ณ เวลา 10.00 น. รายงานข้อมูลการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศใน จ.สมุทรปราการอยู่ในเกณฑ์ดีมาก โดยผลการตรวจวัด สรุปได้ดังนี้ ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เฉลี่ย 24 ชม. ตรวจวัดได้ 5 – 23 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร(มคก./ลบ.ม.) ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชม. ตรวจวัดได้ 17 – 37 มคก./ลบ.ม. ก๊าซโอโซน (O3) เฉลี่ย 8 ชั่วโมง ตรวจวัดได้ 2 - 12 ส่วนในพันล้านส่วน (ppb) ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) เฉลี่ย 8 ชม. ตรวจวัดได้ 0.09 - 0.7 ส่วนในล้านส่วน (ppm) ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) เฉลี่ย 1 ชม. ตรวจวัดได้ 7 - 12 ppb และก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) เฉลี่ย 1 ชม. ตรวจวัดได้ 1 - 6 ppb ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศแบบ Real time ของประเทศไทย ได้ที่เว็บไซต์ Air4Thai.com และแอปพลิเคชัน Air4Thai


นายอรรถพล กล่าวอีกว่า สำหรับการตรวจสอบไอระเหยสารเคมีในบรรยากาศ วันที่ 7 ก.ค. 2564 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 10.00 น. พบว่า 1) บริเวณภายในโรงงานตรวจไม่พบทั้งสารสไตรีนและฟอร์มัลดีไฮด์ 2) บริเวณภายนอกโรงงานบริเวณด้านหน้าโรงงานตรวจไม่พบสารสไตรีนและตรวจพบฟอร์มัลดีไฮด์ปริมาณ 0.007 ppm (ค่ามาตรฐาน 0.9 ppm) ซึ่งไม่เกินค่ามาตรฐาน และบริเวณชุมชนใกล้เคียงโรงงาน 3 จุด ในรัศมี 1-2 กิโลเมตร ตรวจไม่พบทั้งสารสไตรีน และฟอร์มัลดีไฮด์ ทั้งนี้ คพ. ได้ประสานข้อมูลการตรวจวัดคุณภาพบรรยากาศรายวันให้กับศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อการตัดสินใจยุติการอพยพออกจากพื้นที่ต่อไป และจะเฝ้าระวังคุณภาพอากาศ คุณภาพน้ำและมลพิษจากสารเคมีที่ตกค้างในสิ่งแวดล้อมที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่โดยรอบ และใช้เป็นข้อมูลประกอบการแจ้งเตือนหากพบว่ามีค่ามลพิษสูงเกินมาตรฐานที่กำหนดไว้ จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ