รวบ 14 ผู้ต้องหาร่วมขบวนการปั่นเฟกนิวส์​โจมตีบริษัทนมชื่อดัง​

2021-07-07 16:01:59

รวบ 14 ผู้ต้องหาร่วมขบวนการปั่นเฟกนิวส์​โจมตีบริษัทนมชื่อดัง​

Advertisement

กองปราบรวบ 14 ผู้ต้องหาร่วมขบวนการปั่นเฟกนิวส์​โจมตีบริษัทนมชื่อดัง​ เผยชนวน​เหตุมาจากปัญหาความขัดแย้งทางธุรกิจ

เมื่อวันที่  7 ก.ค.ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน รอง ผบก.ป.  แถลงผลการจับกุมขบวนการปั่น​เฟกนิวส์โจมตีบริษัทนมชื่อดังได้รับความเสียหายโดยการจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 มี.ค. ​2564​ มีตัวแทนของบริษัท นมชื่อดังได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ป.ว่าถูกเฟซบุ๊กแฟนเพจแห่งหนึ่ง โพสต์ภาพและข้อความ ลักษณะบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท โดยเป็นการทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น ทำให้ทางบริษัทได้รับความเสียหาย จึงขอให้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี

ต่อมาชุดสืบสวน​ กองกำกับการ1​ ได้ขยายผลจนทราบว่าแอดมินเพจดังกล่าวเป็นเจ้าของบริษัทที่ปรึกษาด้านโฆษณาและประชาสัมพันธ์ และเป็นผู้วางแผนโดยมีผู้ร่วมขบวนการจำนวนกว่า 10 คน​ ชุดสืบสวน จึงทำการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง จนนำไปสู่การขออนุมัติหมายจัง และขยายผลนำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 17 จุด​ ในพื้นที่กทม.​สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 14 ราย ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา, เป็นอั้งยี่และซ่องโจร, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันบิดเบือนข้อมูลที่สร้างความเสียหายแก่ประชาชน​ และยึดของกลางเป็นสมุดบัญชีธนาคาร, เครื่องมือสื่อสาร, เอกสารเกี่ยวกับการเงิน และเอกสารสำคัญต่างๆรวม 100 รายการ

พ.ต.ต.มนตรี​  กล่าวว่า เพจดังกล่าวได้กระทำมาตั้งแต่กลางปี 2562​ โดยหนึ่งในพฤติการณ์ของขบวนการปั่นเฟกนิวส์ คือการส่งตัวแทนเข้าไปยื่นเอกสารให้ หน่วยงานที่มีอำนาจในการตรวจสอบคุณภาพ​สินค้า​ เช่น สำนักงานองค์การอาหารและยา (อย. ) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)ให้เข้าไปตรวจสอบบริษัทดังกล่าว โดยมีจุดประสงค์เพียงแค่ต้องการลดความน่าเชื่อถือเท่านั้น​ ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ทั้ง 14​ รายประกอบได้ด้วยผู้ว่าจ้าง ซึ่งเป็นบริษัทที่เคยทำธุรกิจร่วมกับผู้เสียหาย คนกลางในการว่าจ้างและผู้ที่อยู่ในขบวนการปั่นเฟกนิวส์ ซึ่งทราบว่ามีผู้ร่วมขบวนการเป็นอดีตผู้สื่อข่าวร่วมด้วย​ ทั้งหมดได้รับเงินว่าจ้างรวมกว่า ​12 ล้านบาท​

สำหรับสาเหตุการว่าจ้างในครั้งนี้​ รองผู้บังคับการกองปราบปราม​ ระบุว่า​ มาจาก​ปัญหา​ความขัดแย้งเชิงธุรกิจระหว่าง2บริษัท​ ส่วนรายละเอียดนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้​ เนื่องจากอยู่ในสำนวนการสอบสวน ซึ่งหากผู้ต้องหาประสงค์​จะยื่นขอประตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา แต่ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่ามีหลักฐานที่เชื่อว่าจะสามารถดำเนินคดีกับขบวนการดังกล่าวได้