โควิดสายพันธุ์อินเดียรุกพื้น กทม. พบติดเชื้อใหม่ 86 ราย

2021-06-16 14:14:20

โควิดสายพันธุ์อินเดียรุกพื้น กทม. พบติดเชื้อใหม่ 86 ราย

Advertisement

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เผยโควิดสายพันธุ์อินเดียรุกพื้น กทม. พบติดเชื้อใหม่ 86 ราย สะสม 404 ราย อึ้งพบ 10 ราย นอน รพ.กลางกรุง แถมยังพบในอีก 13 จว.เชื่อมโยงกทม. อึ้งแพร่เร็วกว่าสายพันธุ์อังกฤษ 40% คาดคาด 2-3 เดือน ชิงพื้นที่ 50 %

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่กรมวิทยาศาสตร์กาแพทย์ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสายพันธุ์ที่พบในประเทศไทย จากตัวอย่างเชื้อที่ส่งข้ามายังกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระหว่างวันที่ 7 เม.ย. -13 มิ.ย. จำนวน 5,055 ตัวอย่าง พบว่าส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์อัลฟ่า (อังกฤษ) 4,528 ราย คิดเป็น 89.6% สายพันธุ์เดลต้า (อินเดีย) เพิ่มขึ้นจาก 359 รายที่รายงานไปก่อนหน้านี้ เป็น 496 คน หรือเพิ่ม 137 ราย มากสุดคือ กทม.สะสม 404 ราย โดยเป็นรายใหม่ 86 ราย ในจำนวนนี้พบ 10 ราย ในรพ.กลางกรุงเทพฯ 3-4 แห่ง อัตราการเพิ่มขึ้น จาก 8% เป็น 9.8% นอกจากนี้ยังพบที่ ปทุมธานี 28 ราย นครนายก 8 ราย สกลนคร 3 ราย พะเยา 2 ราย อุบลราชธานี 2 ราย เชียงราย เพชรบูรณ์ ชลบุรี จันทบุรี ขอนแก่น อุดรธานี เลย และบุรีรัมย์ จังหวัดละ 1 ราย ขณะที่สายพันธุ์เบต้า (แอฟริกาใต้) ที่เริ่มพบที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาสเดิมพบ 26 ราย ขณะนี้พบเพิ่มอีก 2 ราย นอกอ อ.ตากใบ แต่ยังอยู่ใน จ.นราธิวาส ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังพบอีก 3 ราย สถานกักกันตัวของรัฐจ.สมุทรปราการ

“ทั้งนี้ความสามารถในการแพร่เชื้อของสายพันธุ์เดลต้า มากกว่าสายอัลฟ่า 40% ซึ่งต้องมีการจับตาอย่างใกล่ชิด เป็นรายสัปดาห์ หากสถานการณ์ยังทรงๆ อาจจะไม่มีปัญหาแต่หากยังมีการแพร่ระบาดแบบก้าวกระโดด คาดว่าประมาณ 2-3 เดือน อาจจะเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดมากขึ้นสัดส่วนครึ่งต่อครึ่งกับสายพันธุ์อัลฟ่า ส่วนในต่างจังหวัดที่พบเชื้อสายพันธุ์เดลต้านั้นพบว่ามีความเชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อในกรุงเทพฯ มาก่อน โดยเฉพาะแคมป์คนงานหลักสี่  ข้อมูลที่กรมวิทย์ฯ ออกมารายงานให้ทราบสสม่ำเสมอนั้น ไม่ได้ต้องการทำให้ตกใจ แต่เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา การเฝ้าระวังเพื่อการควบคุมโรค"นพ.ศุภกิจ กล่าว 

นพ.บัลลังก์ อุปพงษ์ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีการศึกษาวิจัยการเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคหลังฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม ใน 200 คน โดยนำเลือด หรือซีรั่ม มาตรวจสอบกับเชื้อโควิดสายพันธุ์ต่างๆ พบว่าเมื่อตรวจกบเชื้อสายพันธุ์ดั้งเดิมพบว่ามีภูมิฯ ขึ้นสูง 100% สายพันธุ์อัลฟ่า ภูมิขึ้น 50-60% จะมีตรวจเพิ่มเติมในผู้ที่ฉีดครบ 2 เข็มแล้วเป็นเวลา 3 เดือน 6 เดือน อีกครั้ง และขณะนี้กำลังทดสอบในคนฉีดวัคซีนของแอสตร้าฯ 1 เข็ม รวมทั้งจะทำการทดสอบกับเชื้อเดลตา และเบต้า เพื่อดูถึงประสิทธิภาพวัคซีนที่ได้รับขณะนี้

ด้าน นพ.อาชวินทร์ โรจนวิวัฒน์ ผอ.สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทย์ กล่าวว่า การตรวจสายพันธุ์ต่างๆ เป็นการสุ่มตรวจเพื่อเป็นแนวทางเฝ้าระวัง โดยจะสุ่มตัวอย่างจาก 1.กลุ่มที่มีอาการรุนแรง 2.กลุ่มที่มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ 3.พื้นที่ที่ไม่เคยระบากแต่มีการพบเชื้อ 4.ตามชายขอบชายแดน และ 5.กลุ่มที่ได้รับวัคซีนแล้วยังติดเชื้อ.