"ประภัตร" รับปากปรับอัตราเยียวยาเกษตรกร ได้รับผลกระทบ "โรคลัมปี สกิน" ระบาด
เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่1 ทำหน้าที่ประธานในที่การประชุม นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา รมว.เกษตรและสหกรณ์ กรณีปัญหาการแพร่ระบาดของโรคลัมปีสกิน ที่เกิดขึ้นในโคและกระบือ ว่า ขณะนี้โรคลัมปี สกิน กำลังระบาดหนักในพื้นที่ภาคอีสาน โดยโคและกระบือเปรียบเหมือนเป็นสมบัติที่สำคัญที่สุดของครอบครัวเกษตรกร แต่กลับต้องมาเผชิญกับปัญหาโรคระบาด ดังนั้น จึงขอถามรัฐมนตรีถึงวิธีดูแลรักษาและการป้องกันเบื้องต้นเกี่ยวกับโรคดังกล่าว และกรณีที่เกษตรกรกลัวว่าวัวและโคกระบือจะตายจึงไปซื้อยามารักษาเอง หากไปซื้อยามารักษาเองและวัว กระบือ หายแล้วจะเยียวยาอย่างไร ถ้าหากตายจะขอค่าเยียวยาเพิ่มจากกรอบเดิมได้หรือไม่ รวมทั้งจ้างอาสาปศุสัตว์เพิ่มขึ้นเพื่อเข้ามาช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อนได้หรือไม่
ด้านนายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้รับมอบหมายจาก รมว.เกษตรฯ ชี้แจงแทนว่า โรคดังกล่าวเป็นโรคอุบัติใหม่ จึงมีการสั่งการให้กรมปศุสัตว์อำเภอเข้าไปดูแลรักษาตามอาการทั้งการให้ยาและฉีดยา ทั้งนี้ ปัจจุบันวัวมีราคาแพง ส่วนค่าชดเชยส่วนตัวไม่เห็นด้วยตั้งแต่ต้น ยินดีที่จะรับเรื่องไปพิจารณาเพื่อนำเข้าคณะกรรมการพิจารณาชดเชย เห็นด้วยที่จะชดเชยตามที่เสนอมา แต่ต้องรอที่ประชุมพิจารณาก่อนที่จะส่งเรื่องไปที่กระทรวงการคลังซึ่งมีกรมบัญชีกลางเป็นแม่งานว่าจะยินยอมหรือไม่ ขอรับรองว่าได้การปรับปรุงแน่นอนแต่จะมากกว่านี้หรือไม่จะพยายามทำให้เต็มที่ ส่วนที่ป่วยแล้วหาย ขณะนี้กำลังคิดหาวิธีว่าจะชดเชยอย่างไร
“ผมเห็นด้วยว่าเจ้าหน้าที่ของปศุสัตว์มีจำนวนน้อยมาก ขณะนี้เรามีอาสาสมัครปศุสัตว์ทั่วประเทศ 6 หมื่นคนแต่ไม่ได้รับการดูแลหรือช่วยเหลือใดๆ ทั้งนี้ ขอนำเสนอว่าประการแรกเราจะนำเรื่องนี้ไปขอเงินส่วนหนึ่งเพื่อทำเหมือน อสม. เบื้องต้นกำหนดว่าขอจังหวัดที่ประสบภัย ประมาณ 1 หมื่นอัตรา ระยะเวลา 6 -12 เดือน และข้อเสนอขอให้ส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เปิดอัตราทุกตำบลและเทศบาลเพื่อรับเจ้าหน้าที่เพิ่ม ยืนยันว่าจะนำ 2 ประเด็นนี้ไปดำเนินการและพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่”นายประภัตร กล่าว