"กรวีร์" เตือนกู้เงิน 5 แสนล้านอย่าซ้ำรอยกู้ 1 ล้านล้าน กู้หน้านายกรัฐมนตรีและรัฐบาล
เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ.2564 หรือพ.ร.ก.กู้เงิน 5แสนล้านบาท
นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า สิ่งที่คาดหวังจะได้เห็นจากพ.ร.ก.กู้เงิน5แสนล้านบาทคือ หวังว่าจะไม่ซ้ำรอยกับการออก พ.ร.ก.กู้เงิน 1ล้านล้านบาท ซึ่งมีอยู่ 3 วิธีที่จะแก้ไขปัญหาได้ คือ 1.มีความจริงจังในการแก้ปัญหาสาธารณสุข การกู้เงินใน 2 ครั้ง เหมือนกับปัญหาสาธารณสุขมาบังหน้ากู้เงิน การกู้เงินครั้งนี้ ระบบสาธารณสุขได้เงินแค่ 3หมื่นล้าน หรือ ร้อยละ 6 นี่คือการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุใช่หรือไม่ ถือว่าไม่เข้าใจการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง 2.จะต้องไม่เยียวยาแบบเดิม เหมือนตอนกู้เงิน 1ล้านล้านบาท ที่ใช้เงินเยียวยาไป 7แสนล้านบาท แล้วยังจะขอกู้เงินเพื่อนำไปเยียวยาอีก 3แสนล้านบาท ถ้าการเยียวยาได้ผลจริง วันนี้คงไม่ต้องมากู้เงินอีก วิธีแก้ปัญหาต้องไม่ใช่การแจกเงิน แต่ต้องสร้างงาน เปลี่ยนจากการเสกเงินเป็นเสกงาน สร้างอาชีพ 3.ต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม เพื่ออนาคต การกู้เงินรอบที่แล้ว มีงบฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 4แสนล้านบาท แต่กลับถูกโอนไปใช้ในการเยียวยา เหลือเงินในการฟื้นฟูแค่ 2.5แสนล้านบาท และยังถูกเอาใช้ในโครงการคนละครึ่งอีก 2แสนล้านบาท เบ็ดเสร็จเหลือเงินเพื่อการฟื้นฟูไม่ถึง 5หมื่นล้านบาท ดังนั้นจึงต้องฟื้นฟูอย่างเอาจริงเอาจังเพื่ออนาคตประเทศ ขอบอกว่ารมว.คลังและสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติว่า การกู้เงินในนาทีนี้ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด สิ่งสำคัญกว่านั้นคือ ต้องกู้หน้านายกรัฐมนตรีและรัฐบาล และสิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องกู้ความเชื่อมั่น ถ้ากู้ความเชื่อมั่นกลับมาไม่ได้ ต่อให้กู้เงินอีกเท่าไรก็แก้ปัญหาไม่ได้