รวบผู้ต้องหาชาวสิงคโปรคาคอนโดลักลอบส่งไอซ์ 3 กก.ไปสิงคโปร์
เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวชายชาวสิงคโปร์ลักลอบส่งยาไอซ์ 3 กก.ส่งไปยังสิงคโปร์ ได้ที่คอนโดแห่งหนึ่งบ่านลาดพร้าว โดยนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส เปิดเผยว่า การจับผู้ต้องหาคนนี้เป็นการติดตามสืบสวนจากชื่อผู้ส่งพัสดุของกลาง ซึ่งชุดปฏิบัติการภารกิจสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด ผ่านท่าอากาศยาน สกัดกล่องพัสดุต้องสงสัยเอาไว้ได้เมื่อ 26 มี.ค. 2564 ผลการตรวจค้นพบมียาไอซ์ น้ำหนัก 3 กก.ซุกซ่อนในลำโพง เอ็คซ์ตาซี (Ecstasy) กลุ่มยาหลอนประสาท รวม 1,320 เม็ด จากนั้นสืบสวนติดตามหาผู้ส่ง กระทั่งพบที่อยู่ คอนโดย่านลาดพร้าว จึงนำหมายจับเข้าตรวจค้นและควบคุมตัวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผลการจรวจค้นห้องพักยังพบของกลางที่น่าจะเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดหลายรายการ และ ยังพบว่า มี สารเสพติด กลุ่มยาอี มีขนมช็อคโกแลตผสมกัญชาอีกจำนวนหนึ่ง
ขณะเดียวกันพล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้ดูแลงานด้านยาเสพติดกล่าวถึงสถานการณ์ยาเสพติดในระยะนี้ที่พบว่า มีการพยายามส่งออกนอกประเทศหลายครั้ง ว่า ปีที่ผ่านมามีการจับได้หลายราย ประมาณ 100 คดี ส่วนตลอดทั้งปีนี้ก็พบว่า มี ความพยายามจะลักลอบ นำยาเสพติดส่งออกหลายครั้ง ในส่วนของท่าอากาศยานการสกัดกั้นค่อนข้างเข้มแข็งแต่การส่งออกทางเรือยอมรับว่ายังมีอุปสรรคเนื่องจากในแต่ละวันมีสินค้าที่เข้าตู้คอนเทนเนอร์ลงเรือส่งออกนอกประเทศหลาย 100,000 ตู้ ซึ่งมีการปรับงานป้องปรามล่าสุดคือสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดกำลังตั้งศูนย์เฝ้าระวังที่ท่าเรือแหลมฉบังเพื่อเป็นการเกาะติดสถานการณ์รวมถึงเป็นการป้องปรามกลุ่มขบวนการลักลอบตัดขนยาเสพติด
นอกจากนี้การสืบสวนย้อนหลังยังพบว่า ผู้ต้องหาคนนี้มีประวัติการส่งออกพัสดุไปยังต่างประเทศมาแล้วหลายครั้ง รวม ประมาณ 40 ครั้งด้วยกัน ปลายทางเป็นออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ซึ่งข้อมูลที่ได้จากทางการสิงคโปร์และออสเตรเลียระบุพบของกลางที่ส่งไปเป็นยาเสพติดเช่นเดียวกัน โดยซุกซ่อนรูปแบบเดียวกันกับที่พบครั้งนี้ ซึ่งข้อมูลที่ได้จากทางการทั้ง 2 ประเทศ เป็นข้อมูลนำสืบสกัดจับได้ในครั้งนี้ได้สำเร็จ
เบื้องต้น แจ้งข้อกล่าวหา ผู้ต้องหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ,3,4 เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และพยายามส่งออกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”