"ช่อ"ถามหาจิตสำนึกกองทัพปม "ประสิทธิ์ เจียวก๊ก"

"ช่อ"ถามหาจิตสำนึกกองทัพหลังกองปราบแถลงผลจับกุมเครือข่าย "ประสิทธิ์ เจียวก๊ก"

เมื่อวันที่ 15 พ.ค. น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า กล่าวถึงกรณีที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) แถลงข่าว ผลการสนธิกำลังจับกุมดำเนินคดีเครือข่ายต้มตุ๋นของนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก นักธุรกิจชื่อดัง ซึ่งมีผู้ถูกหลอกได้รับความเสียหายมูลค่านับพันล้านบาท ว่า เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2564 ตนได้แถลงข่าวเปิดเผยข้อมูลที่บริษัทในเครือของนายประสิทธิ์ ได้ให้หน่วยปฏิบัติการข่าวสาร หรือไอโอของโรงเรียนจิตอาสาพระราชทาน และหน่วยงานอื่นๆ ของกองทัพ ใช้พื้นที่เซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์ในเครือบริษัทเป็นที่ใช้สื่อสารกันของแอพพลิเคชั่นเครือข่ายไอโอ ที่มีกำลังพลในกองทัพจำนวนนับร้อยนับพันคนปฏิบัติงานอยู่ในนั้น เพื่อด้อยค่าประชาชนคนไทยด้วยกันเอง โดยได้ตั้งข้อสังเกตถึงบริษัทในเครือธุรกิจทั้งหมดของนายประสิทธิ์ว่าพบความไม่ชอบมาพากลเป็นอย่างยิ่ง ทั้งเรื่องงบการเงินที่ไม่สมเหตุสมผล ทั้งเรื่องโมเดลธุรกิจต่างๆ จนทำให้น่าเชื่อว่านี่คือการหลอกหลวงต้มตุ๋นครั้งใหญ่ และไม่สมควรที่กองทัพจะให้บุคคลเช่นนี้มาอบรมเจ้าหน้าที่กองทัพ และร่วมมือกับกองทัพไม่ว่าจะในกิจการใด

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวต่อว่า ผลของการแถลงข่าวดังกล่าว นอกจากจะไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากกองทัพ ไม่มีการตอบคำถามเรื่องไอโอ นอกจากการปฏิเสธแบบยืนกระต่ายขาเดียว นายประสิทธิ์ยังได้เดินทางไปกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อแจ้งความตนและคณะก้าวหน้า ว่าพาดพิง ไม่มีข้อเท็จจริงหมิ่นประมาทกรณีกล่าวหาว่าเขาทำธุรกิจไม่ชอบมาพากล เวลากลายเป็นเครื่องพิสูจน์อีกครั้งแล้ว ถึงความถูกต้องของข้อมูลที่คณะก้าวเปิดเผยก่อนหน้านี้มาครึ่งปีเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลของนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก แม้เราจะถูกปิดปากด้วยคดีความ ถูกข่มขู่และดิสเครดิตต่างๆ นานา จากกลุ่มประสิทธิ์ ถูกไอโอโจมตีด้อยค่า เช่นเดียวกับการเปิดเผยข้อมูลประเด็นวัคซีนของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ซึ่งทำให้คนพูดโดนคดี 112 โดนโจมตีว่าเป็นพวกชังชาติ ล้มสถาบัน ทั้งที่เมื่อเวลาผ่านไป ปรากฏว่าข้อมูลและการคาดการณ์ต่างๆ ล้วนกลายเป็นจริง ประเทศนี้ คดีความและการถูกด้อยค่า คือราคาที่คนพูดความจริงต้องจ่าย

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวอีกว่า กองทัพไม่สามารถนิ่งเงียบเพื่อเอาตัวรอดได้ในทุกเรื่อง ครั้งนี้ขอให้มีจิตสำนึกของความเป็นหน่วยงานรัฐที่ทำงานบนภาษีประชาชน ออกมาชี้แจงที่มาที่ไปของการร่วมงานกับนายประสิทธิ์ ทั้งที่เป็นผู้ที่มีภูมิหลังทางธุรกิจไม่โปร่งใส และที่สำคัญที่สุด ประชาชนอยากทราบว่า เมื่อเครือข่ายประสิทธิ์ถูกจับกุมทำลายไปแล้ว กองทัพยังสานต่อภารกิจไอโอจิตอาสาต่อไปหรือไม่ และดำเนินการโดยใคร เรามีข้อมูลว่าปฏิบัติการไอโอยังดำเนินอยู่ และขยายวงครอบคลุมหลายหน่วยของกองทัพมากขึ้น รวมถึงมีเอกชนเข้ามาร่วมมือ นายประสิทธิ์ถูกออกหมายจับ ไม่ได้แปลว่าปฏิบัติการจะหยุดชะงัก ถ้ากองทัพยังไม่หยุดพฤติกรรมสร้างความเกลียดชังบนภาษีประชาชน เราก็จะไม่หยุดตามสืบข้อมูลต่อไป เพื่อให้ประชาชนได้รู้เท่าทันขบวนการไอโอ