ดำเนินคดี "สับ วาปี-ภรรยา"ให้การเท็จ

2017-11-24 00:50:38

ดำเนินคดี "สับ วาปี-ภรรยา"ให้การเท็จ

Advertisement

พี่ชาย ภรรยา และญาติ "สับ วาปี"ตบเท้าเข้ามอบตัว ตำรวจเตรียมดำเนินคดี 2 ข้อหา "สับ-ภรรยา"ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ และให้การเท็จต่อเจ้าพนักงาน โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ​ตำรวจคุมตัว นายสับ วาปี อายุ 61 ปี ผู้ต้องหาคดีรับจ้างทำผิดแทน ครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ไปทำแผนชี้จุดรับเงิน จากนายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง เพื่อนครูจอมทรัพย์ ซึ่งเป็นคนไปรับมาที่ศาลจังหวัดนครพนม จากนั้นได้ขับรถไปจอดที่ลานจอดรถของศาลจังหวัดนครพนม ก่อนที่ครูอ๋อง ที่นั่งอยู่บริเวณเบาะด้านหลัง ได้ยื่นเงินให้นายสับจำนวน 1.7 แสนบาท ซึ่งมีนางจัน วาปี ภรรยา รวมถึง นายเลิศ วาปี พี่ชายนั่งมาในรถด้วย ส่วนคนขับรถไม่ทราบชื่อ เพราะมากับครูอ๋อง ก่อนที่จะนำขึ้นไปจ่ายที่ศาล ตามคำพิพากษา เพื่อเป็นการยืนยัน ว่า เงินค่าชดเชยผู้เสียหาย เป็นเงินของนายสับ วาปี เพราะอ้างว่าเป็นคนขับรถ ตามข้อตกลงที่ว่าจ้าง ที่จะเป็นหลักฐานส่วนหนึ่ง ในการช่วยครูจอมทรัพย์ให้พ้นผิด ซึ่งจากคำให้การ ของนายสับ วาปี ถือเป็นหลักฐาน สำคัญที่จะเชื่อมโยงเอาผิดกับขบวนการทั้งหมด โดยมีครูอ๋อง เป็นคนวางแผนการทั้งหมด 


​นายสับ ให้การว่า ในช่วงระหว่างการพิจารณาไต่สวน รื้อฟื้นคดีของศาล วันที่ 8 – 10 ก.พ. 2560 ที่ผ่านมา นายสับได้ถูกกระทรวงยุติธรรม รวมถึงดีเอสไอ นำไปสอบสวน และเข้าเครื่องจับเท็จ จนรู้ว่านายสับเป็นขบวนการรับจ้างทำผิดแทนครูจอมทรัพย์ ซึ่ง ทางนายสับเกิดสำนึกผิด และยืนยันว่าจะกลับคำให้การต่อศาล ว่าถูกว่าจ้าง ทำให้กระทรวงยุติธรรม ไม่นำนายสับขึ้นมาเบิกความต่อศาล อีกทั้งนายสับยังยืนยันว่า ในช่วงนั้นได้พบกับครูจอมทรัพย์ ซึ่งพักใกล้กัน ทำให้ครูจอมทรัพย์ ได้ต่อว่า นายสับ เพราะไม่พอใจหลังทราบว่าจะกลับคำให้การ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ยืนยันว่า ครูจอมทรัพย์รู้เห็น 

​พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ในส่วนของประเด็นที่มีการบริจาคช่วยเหลือ ครูจอมทรัพย์ ตามที่เป็นข่าว หากมีประชาชนที่ได้รับความเสียหาย สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับตำรวจได้ เพราะถือว่า เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน มีการหลอกลวง เนื่องจากรู้มาก่อนว่า ตนไม่ได้เป็นแพะ และมีการร่วมขบวนการในการรับจ้างทำผิดแทน โดยทางตำรวจยืนยันว่า ทุกคนที่เกี่ยวข้องจะดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย


ล่าสุดทางด้านพี่ชาย ภรรยา และญาตินายสับ ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจเแล้ว สำหรับการดำเนินคดีกับนายสับนั้น ตำรวจจะนำตัวส่งอัยการ ฟ้องศาลจังหวัดนครพนม ตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมกับภรรยา นางจัน วาปี อายุ 59 ปี ในเวลา 09.00 น. วันที่ 24 พ.ย.ข้อหาร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ และให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานรวม 2 ข้อหามีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งต้องรอว่า ศาลจะมีการพิจารณาตัดสิน ออกมาอย่างไร 

สำหรับ นายเลิศ วาปี อายุ 66 ปี พี่ชาย นายสับ และ นายบุญเทิง วาปี อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นญาติ ทางตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา โดยได้สอบสวนเป็นพยานในคดี เนื่องจากยังไม่เข้าข่ายความผิด เพราะมีหลักฐานแค่เดินทางไปกับ นายสับ วาปี แต่ไม่ได้มีการให้การ และลงบันทึกกับทางตำรวจแต่อย่างใด




นายเลิศ วาปี อายุ 66 ปี พี่ชายนายสับ วาปี เปิดเผยว่า วันนี้หลังทราบข่าว ว่าตำรวจดำเนินคดี ตนไม่สบายใจ เกิดความกังวล เพราะไม่รู้ว่าจะมีความผิด จึงต้องการมาให้การตามความเป็นจริงกับตำรวจ ซึ่งก่อนนี้ยอมรับไม่รู้ว่า น้องชาย คือ นายสับมีปัญหาอะไร รับทราบเพียงว่า มาบอกว่าขับรถชนคนตาย จะนำเงินไปชดเชยเยียวยา และไปให้ปากคำตำรวจ จึงไปด้วยเท่านั้น โดยไม่ทราบรายละเอียด ซึ่งมาพบตำรวจในวันนี้ต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ และยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการรับจ้างทำผิดแต่อย่างใด