ตร.ย้ำเตือนระวัง "SMS" แนบลิงก์หลอกลวงให้กรอกข้อมูลส่วนตัว ก่อนฉกเงินเกลี้ยงบัญชี
"หมอ"เตือนหนุ่ม-สาวอย่าทะนงตัวอยู่เหนือ"โควิด"
ศบค.เผยยอดโควิดรายใหม่พุ่งอีก 1,443 ราย ดับ 4 ราย
“นาตาลี” ใจชื้นผลตรวจรอบ 2 ของลูกสาวเป็นลบไม่พบเชื้อโควิด-19
รอง ผบก.ปอท. กล่าวต่อ ส่วนคำถามที่ว่ากดลิงก์ครั้งเดียวเงินหมดบัญชี อันนี้ต้องเรียนว่ายาก และอยากให้พี่น้องประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะแอพพลิเคชั่นของธนาคารหรือสถาบันการเงินจะมีการป้องกันและพัฒนาการแฮกหรือเข้าถึงระบบโดยมิชอบ เว้นเสียแต่เจ้าของบัญชีจะถูกหลอกให้กดลิงก์ที่มิจฉาชีพหลอกลวง หรืออาจแชทคุยกับเหยื่อโดยใช้โลโก้ธนาคารแล้วอ้างว่าบัญชีเงินฝากของท่านมีปัญหา ถูกอายัดบัญชี จากนั้นจะหลอกให้เจ้าของบัญชียืนยันตัวตนโดยให้กรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขบัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด username และ password ผ่านลิงก์ปลอม หรืออาจหลอกให้กรอก OTP (one time password หรือ รหัสใช้ครั้งเดียว) เมื่อเหยื่อหลงกลเพราะเชื่อว่าส่งมาจากธนาคารจริง ก็จะกรอกข้อมูลดังกล่าว ทำให้มิจฉาชีพรู้ข้อมูลทุกอย่าง จึงสามารถทำธุรกรรมถอนเงินจากบัญชีเราได้จนเงินหมดบัญชี พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ยังกล่าวถึงการสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้กลอุบายดังกล่าวว่า ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการเชิงรุกสืบสวนจับกุม โดยศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.), ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) ,บช.สอท. , บก.ปอท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีผลการปฏิบัติอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่วนธีการป้องกันเมื่อได้รับลิงก์ดังกล่าวข้างต้น ขอให้ตั้งสติ อย่าตกใจ อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่เห็น ขอให้สังเกตลิงก์หรือ url จะเป็นชื่อแปลกๆ ไม่ตรงกับสิ่งที่เค้าอ้าง เช่น อ้างว่าเป็นธนาคารหรือหน่วยงานราชการ แต่จะสะกดเป็นข้อความภาษาอังกฤษแปลกๆ และหากได้รับลิงค์เหล่านี้อย่าไปสนใจ อย่าไปกดลิงก์ หรือถ้าเป็นไปได้โทรสอบถาม call center ของหน่วยงานนั้นๆ เช่น ธนาคาร ที่สำคัญ คือ อย่าหลงกรอก username password หรือ otp ผ่านลิงก์ที่ได้รับเหล่านั้นอย่างเด็ดขาด นอกจากนั้นควรตั้งรหัสที่คาดเดาได้ยาก และควรตั้งค่าการเข้ารหัส 2 ชั้น (2 Factor Authentication) สำหรับการหลอกลวงดังกล่าว ผู้กระทำผิดจะถูกแจ้งข้อหา ฉ้อโกงประชาชน, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ, พ.ร.บ.การพนันฯ และ พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ซึ่งแต่ละฐานความผิดก็จะมีอัตราโทษที่แตกต่างกันไป
เมื่อวันที่ 20 เม.ย. พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะรองโฆษก ตร. ย้ำเตือนว่า ช่วงที่ผ่านมาพบพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากกลโกงของมิจฉาชีพ ซึ่งใช้วิธีแจ้งข้อความสั้น หรือ SMS แจ้งผ่านโทรศัพท์มือถือระบุข้อความแสดงความยินกับเจ้าของโทรศัพท์ที่ได้รับเงินจำนวน 100,000-200,000 บาท โดยแอบอ้างส่งมาจากธนคารต่างๆ บ้าง บางคนได้รับข้อความแจ้งว่าเงินในบัญชีของท่านถูกถอนออกไปจำนวน 50,000 บาท ถ้าท่านไม่ได้ทำธุรกรรมขอให้กดลิงก์เพื่อยืนยันบ้าง บางรายได้รับข้อความว่าเป็นผู้โชคดีได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ฟรีบ้าง ซึ่งข้อความพร้อมลิงก์ต่างๆ เหล่านี้ มีการส่งต่อกันในสื่อสังคมออนไลน์ หรือการ Phishing คือ หลอกให้กด ลวงให้กรอก โดย phishing แผลงมาจากคำว่า fishing แปลว่าการตกปลา ซึ่งมีความหมายถึงการปล่อยให้ปลามากินเหยื่อที่ล่อไว้ สำหรับกลลวงที่เกิดขึ้น สืบเนื่องจากปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่มีสมาร์ทโฟน และเข้าถึงโซเชียลมีเดีย มีการใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ โดยเฉพาะการเงินการธนาคาร กลุ่มมิจฉาชีพจึงพยายามเข้าถึงพี่น้องประชาชนผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยใช้วิธีการหลอกลวงด้วยการส่งลิงก์ประกอบกับข้อความในลักษณะต่างๆ ที่สร้างความสนใจ หรือตกใจ จนต้องกดลิงก์ที่แนบมา หากเรากดลิงก์ก็จะพาเราไปพบกับสิ่งที่มิจฉาชีพต้องการให้เราไปเจอ เช่น แอพเงินกู้ หรือเว็บพนัน หากเราสนใจก็จะให้เรากรอกข้อมูลต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ควรทำ เพราะเราอาจถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ปล่อยเงินกู้ เช่น เรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด, ทวงถามหนี้โดยผิดกฎหมาย หรือการกู้ยืมเงินในลักษณะฉ้อโกงประชาชน หรือกรณีเว็บพนันก็จะพยายามโน้มน้าวให้เหยื่อเข้าไปเล่นโดยมีโปรโมชั่นต่างๆ ที่เย้ายวนให้เข้าร่วมเล่นการพนันออนไลน์ จนเสียเงินเสียทองหมดเนื้อหมดตัว
